"ยายคำมั่น" น้องสาว "หลวงพ่อคูณ" พร้อมลูกหลาน บุก! ม.ขอนแก่นขอคืนสรีระสังขารของหลวงพ่อ หลังพินัยกรรมผิดเพี้ยนไปหมด!!?

ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://www.tnews.co.th

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา นางคำมั่น วงษ์กาญจนรัตน์ อายุ 91 ปี น้องสาวพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ พร้อมด้วย นายบุญเทิด วงษ์กาญจนรัตน์ นายสุดท้าย วงษ์กาญจนรัตน์ บุตรชายและหลานชาย รวมทั้งนายเรียน บ่วงขุนทด กรรมการวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา นายสนอง หวังหยิบกลาง อายุ 45 ปี เหรัญญิก และ กรรมการฝ่ายบริหารวัดบ้านไร่ ได้ขอเข้าพบและเพื่อยื่นหนังสือถึงรศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตน์ศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งไม่อยู่เนื่องจากเดินทางไปราชการที่ต่างประเทศ นายธัญญา ภักดี ผอ.กองกลาง ม.ขอนแก่น จึงเป็นผู้รับเรื่องแทน 

โดยหนังสือที่นางคำมั่นยื่นถึงอธิการบดี เป็นเรื่องขอนำสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ กลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านไร่ รายละเอียดระบุว่า ตามที่คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ได้นำสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ มาดำเนินการตามพินัยกรรมตามที่ปรากฏแล้วนั้น พวกเราในนามของคณะญาติผู้ใกล้ชิดทางสายเลือดประกอบด้วย คุณแม่คำมั่น วงษ์กาญจนรัตน์ ในฐานะน้องสาว รวมทั้งเครือญาติทั้งใกล้และไกลทุกคนต่างก็มีความปลื้มปิติกับการสละร่างกายในครั้งนี้ด้วย 

"ยายคำมั่น" น้องสาว "หลวงพ่อคูณ" พร้อมลูกหลาน บุก! ม.ขอนแก่นขอคืนสรีระสังขารของหลวงพ่อ หลังพินัยกรรมผิดเพี้ยนไปหมด!!?

แต่ต่อมาภายหลังได้ข่าวจากบุคคลที่เชื่อถือได้ว่า ได้มีการประชุมร่วมกันของคณะบุคคลหลายฝ่ายในจังหวัดขอนแก่น ถึงการเตรียมที่จะจัดการฌาปนกิจศพของหลวงพ่อคูณ ซึ่งมีความผิดเพี้ยนไปจากเงื่อนไขของหลวงพ่อคูณ ซึ่งมีความผิดเพี้ยนไปจากเงื่อนไขที่ระบุไว้ในพินัยกรรม คือไม่ได้เตรียมการที่จะการฌาปนกิจที่วัดหนองแวง หรือวัดอื่นๆแต่กลับไปเตรียมใช้สถานที่อื่นซึ่งไม่ใช่วัด คือ บริเวณพุทธมณฑล ซึ่งแสดงให้เห็นถือความไม่จริงใจ 

อนึ่งในการประชุมแต่ละครั้ง บุคคลที่ถูกระบุไว้ให้เป็นผู้ร่วมจัดการศพตามพินัยกรรม เช่น นายอำเภอด่านขุนทด และศึกษาธิการ อ.ด่านขุนทด ก็ไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุม เพื่อแสดงความคิดเห็นแต่อย่างไร แม้แต่ได้รับรู้ข่าวสารใดๆ โดยตรงจากคณะแพทย์ศาสตร์ ม.ขอนแก่น เช่นกัน 

จึงเสมือนว่าคณะแพทย์ศาสตร์ ม.ขอนแก่นบริหารจัดการเบ็ดเสร็จแต่เพียงฝ่ายเดียว ประหนึ่งว่าหลวงพ่อคูณเป็นศพไร้ญาติกระนั้น ทางเรารู้สึกเศร้าสลดรันทดใจที่ไม่มีสิทธิใดๆในการจัดการเลยแม้แต่น้อย จึงทำให้เราคิดว่าหลวงพ่อคูณเป็นนายคูณเป็นคนธรรมดาแล้วจะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้หรือไม่ ในขณะเดียวกันทางเราก็ยังเป็นญาติที่จะต้องดำเนินการตามประเพณีนิยมอยู่เช่นเดิม ดังนั้น ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่ซ่อนเร้นแอบแฝงเพื่อการอย่างอื่น หลังจากที่ทางคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ได้ให้นักศึกษาแพทย์ใช้สรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ เพื่อการศึกษาเสร็จสิ้นแล้ว ทางเราจึงไคร่ขอนำสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีนิยมที่วัดบ้านไร่อันเป็นแผ่นดินถิ่นเกิดของหลวงพ่อคูณในลำดับต่อไป 

"ยายคำมั่น" น้องสาว "หลวงพ่อคูณ" พร้อมลูกหลาน บุก! ม.ขอนแก่นขอคืนสรีระสังขารของหลวงพ่อ หลังพินัยกรรมผิดเพี้ยนไปหมด!!?
 

ด้านนายธัญญา ภักดี ผู้อำนวยการกองกลาง หลังได้พูดคุยและรับหนังสือ ได้กล่าวว่า คณะคุณแม่คำมั่น น้องสาวหลวงพ่อคูณ และหลานหลวงพ่อคูณ คณะกรรมการวัดบ้านไร่ได้ขอเข้าพบอธิการบดี ม.ขอนแก่น เพื่อขอยื่นความประสงค์นำสรีระสังขารหลวงพ่อคูณเพื่อนำไปทำพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านไร่หลังเสร็จสิ้นที่หลวงพ่อคูณได้เป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับคณะนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรม ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะได้นำเสนออธิการบดี ม.ขอนแก่น เพื่อดำเนินการตามข้อปรึกษาของคณะของน้องสาว หลาน และลูกศิษย์ หลวงพ่อคูณต่อไป 

สำหรับการเตรียมสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เป็นครูใหญ่นั้น ทางคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ได้มอบหมายให้อาจารย์ประจำภาควิชากายวิภาคศาสตร์ 3 ท่าน คือ รศ.ดร.กิตติศักดิ์ ศรีพาณิชกุลชัย, รศ.พิพัฒน์พงษ์ แคนลา, และผศ.ยรรยง ทุมแสน เป็นผู้เตรียมการให้หลวงพ่อคูณ “เป็นครูใหญ่สาธิต” สำหรับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 และนักศึกษาในศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพทุกคน ทุกชั้นเรียน เพื่อให้นักศึกษาทุกคนได้ศึกษา และสัมผัสสรีระของหลวงพ่อคูณ และนักศึกษาทุกคนจะได้มีหลวงพ่อคูณเป็นครูใหญ่ ตามเจตนารมณ์ของท่านด้วย 

"ยายคำมั่น" น้องสาว "หลวงพ่อคูณ" พร้อมลูกหลาน บุก! ม.ขอนแก่นขอคืนสรีระสังขารของหลวงพ่อ หลังพินัยกรรมผิดเพี้ยนไปหมด!!?

ส่วนการการถวายเพลิงหลวงพ่อคูณ ซึ่งจะมีขึ้นในปี 2561 หลังจากเป็นครูใหญ่ครบตามกำหนด โดยได้พิจารณาเลือกพื้นที่ดิน 350 ไร่ บริเวณ ใกล้กับพุทธมณฑลจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะที่อยู่ในการดูแลใช้ประโยชน์ของเทศบาลเมืองศิลา และสภาเทศบาลเมืองศิลา ที่จะใช้ประโยชน์สำหรับการสร้างโรงพยาบาลศรีนครินทร์ แห่งที่ 2 เพื่อการเรียน การสอน ในปี พ.ศ.2556 คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เลือกสถานที่นี้โดยกันเนื้อที่ 25-30 ไร่ จัดทำเมรุลอยสำหรับถวายเพลิงหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หลังจากนั้นจะสร้างเจดีย์ครอบและสร้างอนุสรณ์สถานหลวงพ่อคูณ เพื่อให้บุคลากรของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และประชาชนทั่วประเทศ ได้รำลึกถึงพระคุณและเชิดชูเกียรติของหลวงพ่อคูณ

 

เรียบเรียง Amity