ร้อนทุกองศาเดือด!!! "สนธิญาณ" ฟันธงนับจากนาทีนี้ตาห้ามกระพริบ อะไรก็เกิดขึ้นได้ใต้ยุทธศาสตร์  "จุดไฟ…ทุกหย่อมหญ้า นำพาสู่สถานการณ์สู้รบ" !!

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

ตลอดต่อเนื่องสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป  มีหลายสถานการณ์ร้อนประเทศที่ต้องเฝ้าจับตาว่าบทสรุปของแต่ละเรื่องราวจะจบลงในแบบไหน  อย่างไร ??   ตามปัจจัยแวดล้อมของเหตุและรากเหง้าปัญหาในอดีต   ซึ่งถูกหมักหมมมาโดยตลอดหลายยุครัฐบาล  และกำลังได้รับการสะสางแก้ไขตามบทบัญญัติกฎหมายและความถูกต้องชอบธรรมอย่างที่ควรเป็น !!!

ล่าสุด “สนธิญาณ  ชื่นฤทัยในธรรม”   ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์   ได้เขียนบทความเรื่อง  “จุดไฟทุกหย่อมหญ้า นำพาสู่สถานการณ์สู้รบ!!   สะท้อนหลายสิ่งหลายอย่างที่ถือเป็น  HOT ISSUE  ตอกย้ำภาพรวมสถานการณ์ร้อนประเทศไทย   บ่งชี้ว่าถึงแม้ว่ารัฐบาลคสช.จะอยู่ในฐานะได้เปรียบเรื่องดุลอำนาจ แต่  “พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช.”  เองกฌต้องไม่ตั้งตนอยู่บนความประมาทเป็นอันขาด ตามรายละเอียดสาระที่ปรากฏดังนี้   

 

 

หนทางอันตีบตันของ ระบอบทักษิณในการจะพลิกฟื้นอำนาจรัฐมาอยู่ในมือ ผ่านการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตาม “Roadmap” แทบจะเป็นไปไม่ได้ด้วยเงื่อนไขของ รัฐธรรมนูญฉบับประชามตินั้นปิดกั้นไว้!!!

 

หรือแม้แต่ขอเพียงแค่ หยุดการรุกคืบด้านกฎหมายกับผู้คนอันเกี่ยวข้องก็ไม่เป็นผล เพราะคดีของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็ยังเดินหน้าไปตามกระบวนการยุติธรรม มิหนำซ้ำ พานทองแท้ ชินวัตรหรือ ลูกโอ๊คก็อกสั่นขวัญแขวนกับ คดีฟอกเงินกรณี กฤษดามหานครกับแบงก์กรุงไทย ซึ่งมีแนวโน้มสูงยิ่งที่จะ โดนเพราะการแถลงของ “DSI” ในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ยืนยันว่าบริสุทธิ์ และการที่บอกว่าต้องสอบข้อมูลเพิ่มเติมก็มีความหมายว่าหลักฐานต่างๆ มันปรากฏชัดกว่าครึ่งแล้ว ที่สอบเพิ่มก็เพราะต้องการเอาให้แน่นดิ้นไม่หลุด!!!

 

ด้วยเหตุนี้เมื่อหนทาง ตีบตันก็ไม่ต้องพูดถึง การประนีประนอมหรือการปรองดองนับจากนี้สังคมไทย คสช.และ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเตรียมตั้งรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ได้เลย

 

จับตา ยุทธศาสตร์จุดไฟเป็นหย่อมๆแฝงตัวและเชื่อมโยงให้กลายเป็นไฟกองใหญ่แล้วให้ กระแสลมจาก สหรัฐอเมริกาพัดพาโหมกระหน่ำให้ คสช.และรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์มีอันเป็นไป ซึ่งนั่นหมายความว่าจะทำให้กองทัพอ่อนแอลง ด้วยเพราะเป็น กำลังหลักจากนั้นก็จะรุกคุกคามสู่ สถาบันหลักของประเทศ

 

วันนี้จาก สถาบันหลักของชาติสู่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์และกองทัพกับประชาชนส่วนใหญ่เป็น หนึ่งเดียวกันยากในการที่จะต่อกรสู้รบในรูปแบบเดิม การประนีประนอมใดๆ ก็ไม่เห็นหนทาง การสู้รบที่แตกหัก และ เปลี่ยนระบบการปกครองตามแผนการที่วางไว้จึงต้องเดินเครื่องอย่างเต็มที่

 

บทเรียนจากการชุมนุมของ คนไม่เอาถ่านกรณีโรงไฟฟ้ากระบี่ย่อมจะเห็นได้อย่างชัดเจนถึงการเข้าแทรกซึมเชื่อมโยงขยายผลจากผู้ที่มาชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจ!

 

และเหตุการณ์ของ ธรรมกายที่ต่างฝ่ายต่างก็มาถึงจุดยอมกันไม่ได้ เพราะธรรมกายถ้ายอมก็หมายถึงการล่มสลาย ในส่วน อำนาจรัฐหากยอมรามือในครั้งนี้ก็จะมีแต่ความเสื่อมถอยขาดความน่าเชื่อถือเพราะถึงขนาดเอามาตรา 44” มาใช้ก็ยังไม่ได้ผล ก็ไม่รู้จะพูดว่าอย่างไรแล้ว

 

การต่อสู้ในรูปแบบของ นปช.และ พรรคเพื่อไทยไม่ใช่หนทางที่จะถูกเลือกเดิน เพราะแยกมิตรแยกศัตรูเห็นได้ชัดเจนเกินไป ดังนั้นการรอจังหวะวันเวลาเติมเชื้อไฟในทุกกระแสความ ขัดแย้งของสังคมไทยที่จะเกิดขึ้นกับ คสช.และ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ซึ่งมีเรื่องเปราะบางรออยู่อย่างมากมาย คือจุดมุ่งหมายที่จะ จุดไฟให้ลามเลียไปทุกหย่อมหญ้า

 

คสช.และรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ต้องตั้งรับให้ดีนอกเหนือจากความบริสุทธ์ใจที่มีแล้ว จะต้องมีสติปัญญาในการแยกมิตรแยกศัตรูให้ชัดเจน อย่าได้ ผลักมิตรให้ไปยืนข้างศัตรูเป็นอันขาด!!

 

เรียบเรียง นิตติยา   สำนักข่าวทีนิวส์

ที่มาข้อมูล  :  คอลัมน์  ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน /หน้า 14 หนังสือฐานเศรษฐกิจ/ฉบับ 3238 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม:"สนธิญาณ" เชื่อ!! "ธรรมกาย" สู้ไปก็ไม่ชนะ แต่ทำไมไม่ยอมแถมเปิดแผนใหม่ฟ้องโลกว่าโดนรัฐฯรังแก คนไทยต้องใจเย็นไม่อย่างนั้นเข้าทาง!!!