มันจะมากไปแล้ว!! แม่เด็กเหยื่อกามโร่ร้องผบช.ภ.5 ถูกลุงเขยโทรข่มขู่ถอนแจ้งความ คำถามก็คือต้นสังกัดงานไม่คิดจะทำอะไรเลยหรือ??

จากกรณีน.ส.พัชราภรณ์ กุลพงษ์ อายุ 43 ปี พร้อมด้วย น.ส.สิริกัญญา กุลพงษ์ อายุ 37 ปี ผู้ปกครองของ ด.ญ.นี (นามสมมติ) วัย 12 ขวบ และ ด.ญ.นา (นามสมมติ) วัย 3 ขวบ เดินทางเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังลูกสาวทั้งสองถูกลุงเขย ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงคนหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่  กระทำชำเราและอนาจาร อีกทั้งยังขู่จะฆ่าหากนำเรื่องนี้ไปบอกใคร เป็นผลให้เด็กสาวเกิดอาการซึมเศร้าไม่พูดไม่จา จนคนเป็นแม่สงสัยและทราบเรื่องในที่สุด

เลวเกินทน!! แม่เห็นลูกสาวซึมเศร้าไม่พูดจา สอบถามถึงอึ้งโดนลุงเขยทำอนาจารซ้ำขู่ฆ่า โร่แจ้งตร.ด่วนๆ เพราะมันเป็นขรก.ใหญ่!?! (คลิก)

 

 

ล่าสุด น.ส.พัชราภรณ์ กุลพงษ์ อายุ 43 ปี ได้เดินทางมาร้องเรียนต่อ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รองผบช.ภ. 5 เพื่อขอความคุ้มครองพยาน หลังจากเมื่อวาน (27 ก.พ.) เดินทางเข้าแจ้งความกับ สารวัตรสอบสวน สภ.ภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ ว่า ถูกลุงเขย ข้าราชการระดับ ผอ.หน่วยงานแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนทางตำรวจได้ส่งตัวเด็กทั้ง 2 ไปตรวจร่างกายที่รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ พบว่าเด็กวัย 11 ปี ถูกละเมิดทางเพศ พบร่องรอยการถูกข่มขืน ส่วนน้องวัย 3 ขวบตรวจไม่พบ

 

 

โดยน.ส.พัชราภรณ์ แม่ของเด็ก กล่าวว่า หลังจากที่เดินทางเข้าแจ้งความและเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ไปตรวจค้นที่บ้านพักข้าราชการของลุงเขยเมื่อวานนี้ ทำให้ป้าของเด็ก ซึ่งเป็นพี่สาวของแม่และน้า รวมทั้งลุงเขยไม่พอใจ โทรศัพท์มาข่มขู่ต่างๆ นานา ให้ไปถอนแจ้งความและขู่จะแจ้งความกลับ จึงเกิดความกลัวว่าอาจถูกปอง

จากกระแสข่าวที่ออกไปว่าเด็กหญิงวัย 11 ปี นั้นได้ตั้งครรภ์ 1 เดือน หลังถูกกระทำชำเรา น.ส.สิริกัญญา น้าสาวของเด็กหญิงทั้งสองนั้น กล่าวว่า ข่าวที่บอกหลานสาวของตนตั้งครรภ์ได้ 1 เดือนนั้น ไม่เป็นความจริง เพียงแต่ตรวจพบร่องรอยการถูกข่มขืน และการฉีกขาดของเยื่อพรหมจารีย์เท่านั้น

 

 

 

 

ทั้งนี้ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้ให้ตำรวจหน้าห้องนำผู้ปกครองและเด็กเข้าไปสอบสวนปากคำในห้อง พร้อมกับประสานให้ บก.สส.ภ.5 นำพยานทั้งหมด เข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน เพื่อให้ความปลอดภัยจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

ขณะที่ พ.ต.ท.เอนก ไชยวงค์ รองผกก.(สอบสวน) สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เจ้าของคดีเผยว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่สามารถไปขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างรอผลตรวจร่างกายยืนยันจากแพทย์ และรอสวนปากคำผู้ปกครองและเด็ก ขณะเดียวกันตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปเก็บหาร่องรอยหลักฐานจากบ้านพักข้าราชการของลุงเขยเอาไว้ประกอบคดี ส่วนผู้ถูกกล่าวหาได้ประสานผู้บังคับบัญชาเอาไว้แล้ว หากมีหลักฐานชัดเจนก็จะออกหมายเรียกให้ผู้บังคับบัญชาพามามอบตัวกับพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป.

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานข่าวว่าทางต้นสังกัดหน่วยงานที่ลุงเขยทำหน้าที่เป็นผอ.ส่วนราชการ จะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ทั้งๆ ที่มีการเข้าแจ้งความเป็นคดีอาญาแล้ว.

 

 

เรียบเรียงโดย กำพลาภร สำนักข่าวทีนิวส์