หัวอกคนเป็นมารดา!!! แม่ศิษย์สาวก"ธัมมชโย" ตายเพราะหอบหืดลามปอดอักเสบ เผยความรู้สึกหลังลูกต้องจากไปเพราะเหตุวุ่นวายจาก "วัดพระธรรมกาย"

จากกรณีที่ นางสาวพัฒนา เพียงแรง อายุ 48 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ของวัดพระธรรมกาย อาชีพเภสัชกร อาศัยอยู่ที่วัดมาประมาณ 25 ปี มีน้องชายเป็นพระบวชอยู่ที่วัดด้วย มีอาการป่วยเป็นโรคหอบหืด และเสียชีวิตในวัดธรรมกาย สังเวยเป็นศพที่ 2 จากเรื่องคาราคาซังที่เกิดจากการบุกค้น หาตัว "พระธัมมชโย"

 

 

 

 

โดย บรรยากาศบ้านพักเลขที่ 44 หมู่ 3 ต.เชียงแรง อ.ภูซาง จ.พะเยา ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.พัฒนา เชียงแรง อายุ 48 ปี ผู้ช่วยเภสัชกรที่เสียชีวิตบริเวณที่พักด้านหลังวัดพระธรรมกาย ซึ่งพี่ชายและพี่สาวได้เดินทางไปรับศพของ น.ส.พัฒนาตั้งแต่เย็นวันที่ 1 มี.ค. 

 

ภายในบ้านของ น.ส.พัฒนา พี่น้องและญาติที่อยู่รอรับร่างไร้วิญญาณ ได้ช่วยกันจัดเตรียมสถานที่รอรับ เพื่อนบ้านร่วมกันไปนำอุปกรณ์เครื่องครัว โต๊ะเก้าอี้ และเครื่องใช้ที่จำเป็นต้องใช้ในงานพิธีศพมาเตรียมไว้พร้อมสรรพท่ามกลางบรรยากาศเศร้าทั้งบ้าน

 

ด้าน นางคำจวน เชียงแรง อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นมารดาของ น.ส.พัฒนา กล่าวถึงความรู้สึกระหว่างรอการกลับมาของลูกสาวที่รักคนสุดท้องว่า น.ส.พัฒนา หรือ หล้า เป็นลูกสาวคนสุดท้องในจำนวนลูกทั้งหมด 6 คน พ่อของหล้าเสียไปกว่า 30 ปี แล้ว เมื่อไม่มีพ่อ หล้าจึงถือเป็นกำลังหลักของครอบครัว ดูแลทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะดูแลแม่ที่ไม่สบาย ป่วยด้วยโรคประจำตัวที่เป็นโรคหัวใจ ความดัน 

 

ทุกเดือนหล้าจะกลับมาบ้านเพื่อพาแม่ไปหาหมอตามนัด กลับบ้านครั้งหนึ่งจะพาแม่ไปหาหมอและอยู่ดูแลจนแม่สบายขึ้นนานประมาณ 2 สัปดาห์ก็จะขับรถกลับกรุงเทพ เพื่อไปทำงานหาเงินส่งมาให้แม่ที่บ้าน บ้านหลังที่อยู่ปัจจุบันนี้ก็ด้วยน้ำพักน้ำแรงของลูกสาวคนนี้ ตอนนี้ไม่มีหล้าแล้วแม่ยังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ พอทราบข่าวลูกสาวไม่อยู่แล้ว เหมือนมีใครมาเด็ดหัวใจแม่ไป

 

พี่สาวของ น.ส.พัฒนา กล่าวต่อว่า พบหน้ากันครั้งสุดท้าย เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หล้าขับรถกลับบ้านมาพาแม่ไปหาหมอ และกลับไปทำงานที่กรุงเทพ ก่อนหน้าที่จะได้รับข่าวเสียชีวิตประมาณ 10 วัน ไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้เลย จนกระทั่งพี่ชายได้ข่าวทางโทรทัศน์มาบอกแม่ แม่เสียใจมาก จนถึงขณะนี้แม่แทบทานข้าวไม่ได้เลย เสียใจน้ำตาซึมตลอดเวลา ปกติแล้วน้องสาวของตนไม่เคยป่วยหรือมีอาการไม่สบายมาก่อน ดังนั้นเหตุผลการเสียชีวิตต้องรอให้พี่ชายและพี่สาวที่รับศพของน้องหล้ากลับมายืนยันด้วยผลการชันสูตรที่ชัดเจน

 

ขณะที่ ญาติของ น.ส.พัฒนา คนหนึ่ง กล่าวว่า พัฒนาหรือน้องหล้าเป็นคนที่อัธยาศัยดีมาก ทุกคนในครอบครัวในหมู่บ้านต่างก็รักน้องหล้าทุกคน เวลาน้องหล้ากลับมาบ้านจะมีแต่ความรักและอบอุ่นสนุกสนาน เพราะเธอเป็นที่รักของทุกคน เมื่อวันนี้เธอจากไปมีแต่คนเสียใจจนบอกไม่ถูก

 

 

 

 

 

 

เรียบเรียง : นิตติยา  สำนักข่าวทีนิวส์