ชัดเจนพอมั้ย..สละสมณเพศ!! เปิดกฎเหล็กมหาเถรสมาคม ย้อนคำ"พระสนิทวงศ์"เทียบเคียง"ธัมมชโย"ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เข้าข่ายสิ้นความเป็นพระ??

ติดตามรายละเอียด http://www.tnews.co.th/

ภายหลังจาก ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ถอดถอนสมณศักดิ์ พระเทพญาณมหามุนี(พระธัมมชโย) โดยมีเนื้อหาระบุว่า ด้วย พระเทพญาณมหามุนี(พระไชยบูลย์ สุทธิผล) วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีกระทําความผิดข้อหาร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร ตามที่ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ ที่ 942/2559 ลงวันที่ 17 พ.ค.2559 และยังถูกกล่าวหาในคดีอาญาฐานอื่นอีกหลายฐานความผิด ซึ่งอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้องในบางคดีด้วยแล้ว แต่พระเทพญาณมหามุนีไม่ยอมมอบตัวตามหมายเรียก และได้หลบหนีคดีดังกล่าว จึงไม่สมควรดํารงอยู่ในสมณศักดิ์ต่อไป และได้นําความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมต่อไปแล้ว บัดนี้ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ถอดถอนพระเทพญาณมหามุนี ออกจากสมณศักดิ์ ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. 2560

ชัดเจนพอมั้ย..สละสมณเพศ!! เปิดกฎเหล็กมหาเถรสมาคม ย้อนคำ"พระสนิทวงศ์"เทียบเคียง"ธัมมชโย"ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เข้าข่ายสิ้นความเป็นพระ??

ด่วนที่สุด!! ราชกิจจานุเบกษา แพร่พระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ถอดถอน พระเทพญาณมหามุนี (พระไชยบูลย์ สุทธิผล) ออกจากสมณศักดิ์แล้ว (คลิก)

 

 

ล่าสุด นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรากรปกป้องพิทักษ์กิจการพระศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงกรณีที่มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ถอด พระไชยบูลย์ สุทธิผล (พระธัมมชโย) ออกจากสมณศักดิ์พระเทพญาณมหามุนี เนื่องจากไม่ยอมมอบตัวตามหมายเรียก และได้หลบหนีคดี จนไม่สมควรดำรงอยู่ในสมณศักดิ์ต่อไป ว่า ตนเห็นว่ามหาเถรสมาคม (มส.) ควรเร่งนำกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21 พ.ศ.2538 ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ ข้อ 3.ในกรณีพระภิกษุรูปใดประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเรื่องเดียวกันหรือหลายเรื่องเป็นอาจิณ หรือไม่มีวัดเป็นที่อยู่เป็นหลักแหล่ง คณะปกครองสงฆ์มีอำนาจวินิจฉัยให้สละสมณเพศได้ มาดำเนินการสั่งให้พระธัมมชโย พ้นจากสมณเพศได้ในทันที

ชัดเจนพอมั้ย..สละสมณเพศ!! เปิดกฎเหล็กมหาเถรสมาคม ย้อนคำ"พระสนิทวงศ์"เทียบเคียง"ธัมมชโย"ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เข้าข่ายสิ้นความเป็นพระ??

 

 

ทั้งนี้ เชื่อว่าจะช่วยให้สถานการณ์การชุมนุมที่วัดพระธรรมกายคลี่คลายลงทันที เพราะศิษย์วัดพระธรรมกายใช้ข้ออ้างว่าปกป้องพระธัมมชโยเป็นเรื่องปกป้องพระภิกษุ ปกป้องพุทธศาสนา ก็จะได้หมดข้อสิ้นข้ออ้าง เพราะสถานะพระธัมมชโยกลายเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่ถูกคณะสงฆ์ขับออกสมณเพศไปแล้ว ไม่ใช่พระสงฆ์อีกต่อไป หากยังมีบุคคลยังดื้อดึงจะชุมนุมปกป้องคนหนีคดี โดยฝ่าฝืนกฎหมายมาตรา 44 ต่อไป จะไม่ได้รับความเห็นใจใดๆ จากสังคมชาวพุทธอีก และคราวนี้จะพากันมีคดีติดตัวกันมากมาย จึงเชื่อว่าม็อบผิดกฎหมายที่วัดพระธรรมกายกำลังจะถึงบทสุดท้ายแล้ว ความเป็นนิติรัฐก็จะกลับคืนมา

 

 

ชัดเจนพอมั้ย..สละสมณเพศ!! เปิดกฎเหล็กมหาเถรสมาคม ย้อนคำ"พระสนิทวงศ์"เทียบเคียง"ธัมมชโย"ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เข้าข่ายสิ้นความเป็นพระ??

 

 

กฎมหาเถรสมาคม
ฉบับที่ ๒๑ (พ.ศ.๒๕๓๘)
ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ *

------------------------

 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๕ ตรี และมาตรา ๒๗  แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕ มหาเถรสมาคมตรากฎมหาเถรสมาคมไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ กฎมหาเถรสมาคมนี้เรียกว่า "กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๑ (พ.ศ.๒๕๓๗) ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ

ข้อ ๒ กฎมหาเถรสมาคมนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์ เป็นต้นไป

ข้อ ๓ ในกรณีระภิกษุรูปใด

             (๑)  ประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเรื่องเดียวกันหรือหลายเรื่องเป็นอาจิณ ให้เจ้าอาวาสวัดซึ่งพระภิกษุนั้นสังกัดหรือพำนักอาศัยมีอำนาจหน้าที่แนะนำ ชี้แจง ตักเตือนให้พระภิกุรูปนั้นประพฤติตามพระธรรมวินัยเป็นลายลักอักษร โดยกำหนดเวลาให้ปฏิบัติ หากพระภิกษุรูปนั้นไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ชี้แจง ตักเตือนภายในเวลาที่กำหนด ให้เจ้าอาวาสวัดซึ่งพระภิกษุรูปนั้นสังกัดหรือพำนักอาศัย รายงานโดยลำดับ จนถึงเจ้าคณะอำเภอเจ้าสังกัด เพื่อวินิจฉัยให้สละสมณเพศต่อไป

             (๒) ไม่สังกัดอยู่ในวัดใดวัดหนึ่ง หรือไม่มีวัดเป็นที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ให้พระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งปกครองวัด หรือพระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งปกครองคณะสงฆ์ในเขตท้องที่ที่พบพระภิกษุรูปนั้น มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัยให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศเสียได้

        ข้อ ๔  ในกรณีที่มีการฟ้องว่า พระภิกษุรูปใดกระทำความผิดอันเป้นครุกาบัติ เมื่อคณะผู้พิจารณาชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ.๒๕๒๑) ว่าด้วยการลงนิคหกรรมแล้ว มีคำสั่งประทับฟ้องเพื่อดำเนินการพิจารณาวินิจฉัยต่อไปก็ดี คณะผู้พิจารณาชั้นต้นวินิจฉัยแล้ว ไม่ว่าจะลงนิคหกรรมหรือไม่ก็ตาม และเรื่องยังอยู่ภายในกำหนดเวลาอุทธรณ์ก็ดี หรือมีการอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลาแล้ว ไม่ว่าคณะผู้พิจารณาชั้นอุทธรณ์จะมีคำสั่งหรือวินิจฉัยอย่างไรก็ดี ให้คณะผู้พิจารณาชั้นต้นหรือคณะผู้พิจารณาชั้นอุทธรณ์แล้วแต่กรณี รายงานข้อเท็จจริงขอกฎหมาย และพระธรรมวินัยที่เกี่ยวข้องต่อมหาเถรสมาคม

        ในกรณีที่การพิจารณาวินิจฉัยการลงนิคหกรรมอยู่ในชั้นฎีกา กรรมการมหาเถรสมาคมรูปใดรูปหนึ่งอาจรายงานต่อมหาเถรสมาคมเพื่อให้ดำเนินการตามข้อนี้ นอกเหนือ

จากการพิจารณาวินิจฉัยการลงนิคหกรรมก็ได้

        ในกรณีที่มหาเถรสมาคมพิจารณาจากรายงานดังกล่าว และพยานหลักฐานอื่นประกอบกันแล้ว เห็นว่าพระภิกษุผู้เป็นจำเลยประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเรื่องเดียวกันหรือหลายเรื่องอันเป็นโลกวัชชะเป็นอาจิณ ทั้งความประพฤตินั้นเมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ที่ล่วงมาแล้ว หากให้ดำรงเพศบรรพชิตต่อไป จ่ะก่อให้เกิดความเสียหายแก่พระศาสนาและการปกครองของคณะสงฆ์ มหาเถรสมาคมมีอำนาจวินิจฉัยให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศได้ ทั้งนี้ไม่กระทบต่อการพิจารณาวินิจฉัยการลงนิคหกรรมที่กำลังดำเนินการอยู่ไม่ว่าในชั้นใดๆ

        ข้อ ๕ คำวินิจฉัยให้พระภิกษุสละสมณเพศตามข้อ ๓ หรือ ข้อ ๔ ให้เป็นอันถึงที่สุด

        ข้อ ๖ เมื่อมีคำวินิจฉัยให้พระภิกษุรูปใดสละสมณเพศตามข้อ ๓ หรือข้อ ๔ แล้ว ให้เจ้าอาวาสซึ่งพระภิกษุรูปนั้นสังกัดหรือพำนักอาศัยหรือพระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งปกครองวัด หรือพระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งปกครองคณะสงฆ์ในเขตท้องที่ที่พบพระภิกษุรูปนั้นแล้วแต่กรณี แจ้งผลคำวินิจฉัยให้พระภิกษุรูปนั้นทราบ และจัดการให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศ

        ในกรณีที่ไม่อาจพบพระภิกษุรูปนั้น หรือพระภิกษุรูปนั้นไม่ยอมรับทราบคำวินิจฉัย เมื่อปิดประกาศตำวินิจฉัยไว้ ณ ที่พำนักอาศัยของพระภิกษุรูปนั้น ถือว่าพระภิกษุรูปนั้นทราบคำวินิจฉัยดังกล่าวแล้ว

        ข้อ ๗ พระภิกษุผู้ต้องคำวินิจฉัยให้สละสมณเพศต้องสึกภายในสามวัน นับแต่วันทราบหรือถือว่าทราบคำวินิจฉัยนั้น

        ในกรณีที่พระภิกษุรูปนั้นไม่สึกภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้พระภิกษุผู้มีอำนาจหน้าที่จัดการให้พระรูปนั้นสละสมณเพศขออารักขาต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายราชอาณาจักร เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำวินิจฉัย

        ข้อ ๘ ใหคณะผู้พิจารณาชั้นต้น หรือชั้นอุทธรณ์แล้วแต่กรณี ซึ่งอยู่ระหว่างพิจาณาคำวินิจฉัยการลงนิคหกรรมตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ.๒๕๒๑) ว่าด้วยการลงนิคหรรมและการพิจารณานั้นยังไม่ถึงที่สุด ปฏิบัติตามกฎมหาเถรสมาคมนี้ และกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ.๒๕๒๑) ต่อไป

 

             ตราไว้ ณ วันที ๒๒  มีนาคม  ๒๕๓๘

 

(สมเด็จพระญาณสังวร)

สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

 

 

ชัดเจนพอมั้ย..สละสมณเพศ!! เปิดกฎเหล็กมหาเถรสมาคม ย้อนคำ"พระสนิทวงศ์"เทียบเคียง"ธัมมชโย"ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เข้าข่ายสิ้นความเป็นพระ??

ชัดเจนพอมั้ย..สละสมณเพศ!! เปิดกฎเหล็กมหาเถรสมาคม ย้อนคำ"พระสนิทวงศ์"เทียบเคียง"ธัมมชโย"ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เข้าข่ายสิ้นความเป็นพระ??

ชัดเจนพอมั้ย..สละสมณเพศ!! เปิดกฎเหล็กมหาเถรสมาคม ย้อนคำ"พระสนิทวงศ์"เทียบเคียง"ธัมมชโย"ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เข้าข่ายสิ้นความเป็นพระ??

 

 

ชัดเจนพอมั้ย..สละสมณเพศ!! เปิดกฎเหล็กมหาเถรสมาคม ย้อนคำ"พระสนิทวงศ์"เทียบเคียง"ธัมมชโย"ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เข้าข่ายสิ้นความเป็นพระ??

 

 

ก่อนหน้านั้น พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ปักหลักรอทำข่าวบริเวณวัดพระธรรมกาย เกี่ยวกับการไม่พบตัวพระธัมมชโยนั้น กล่าวว่า อาตมาก็ไม่ทราบ เพราะไม่ได้มีหน้าที่ดูแล มีเพียงหน้าที่ประชาสัมพันธ์สื่อสารองค์กรภายในวัด จึงไม่สามารถตอบได้ว่าพระธัมมชโยอยู่ในวัดหรือไม่ และก็ไม่ได้พบพระธัมมชโยมา 8-9 เดือนแล้ว.

 

 

เรียบเรียงโดย กำพลาภร สำนักข่าวทีนิวส์