- 06 มี.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://www.tnews.co.th/
สืบเนื่องจากกรณีเกิดเหตุการณ์นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี ถูกกลุ่มวัยรุ่นในอ.ชะอำ จ.เพชรบุรี บุกเข้าไปรุมทำร้ายในหอพักและฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม พร้อมเพื่อนๆ ที่อยู่ด้วยกันอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายธีระพงษ์ ฐิตะฐาน หรือปอนด์ อายุ 24 ปี ตามรายละเอียดที่นำเสนอไปก่อนหน้า
ทั้งนี้ เบื้องต้นมีผู้เดินทางมามอบตัวแล้วทั้งหมด 15 ราย ในจำนวนผู้ก่อเหตุทั้งหมด 18 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่ากับฆ่าคนโดยเจตนา ทราบว่าวันเกิดเหตุวัยรุ่นกลุ่มนี้ขับรถมา 3 คันวนหาคู่อริ กระทั่งบุกเข้าไปในหอพัก แต่ไม่เจอโจทย์เลยตรงเข้าไปทำร้ายร่างกายหนุ่มนักศึกษา ม.ศิลปากร จนเสียชีวิต แต่ผู้ตายไม่เกี่ยวข้อง เป็นความแค้นระหว่างผู้ก่อเหตุกับเพื่อนผู้ตาย
ล่าสุด นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "ทนายคู่ใจ" ได้แสดงความคิดเห็นถึงกรณีกลุ่มวัยรุ่นผู้มีอิทธิพล ยกพวกรุมทำร้ายนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี ถึงหอพักเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายธีระพงษ์ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่น ได้เดินทางรับข้อกล่าวหา พร้อมให้การอ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำร้ายผิดตัว
โดย นายรณณรงค์ ทนายความชื่อดัง กล่าวว่า การแทงคนตายแล้วมาอ้างว่าแทงผิดตัว เพื่อไม่ต้องรับโทษ มันเป็นไปไม่ได้ ตามกฎหมายอาญามาตรา 61 ผู้ใดเจตนาจะกระทำต่อบุคคลหนึ่ง แต่ได้กระทำต่ออีกบุคคลหนึ่งโดยสำคัญผิด ผู้นั้นจะยกเอาความสำคัญผิดเป็นข้อแก้ตัวว่ามิได้กระทำโดยเจตนาหาได้ไม่ ผู้กระทำความผิดย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำอยู่แล้วว่า เอาไขควงแทงเข้าไปในตำแหน่งศีรษะผู้ตาย ย่อมเจตนาทำอันตรายถึงชีวิต จะบอกทะเลาะวิวาทก็ไม่ได้ เพราะกรณีนี้รุมยำอยู่ฝ่ายเดียว จำเลยก็มีสิทธิอ้างไปเรื่อยในชั้นตำรวจ อัยการ ศาล
คดีนี้กระทำต่อหน้าคนหลายคนไม่เกรงกลัวกฎหมาย มือแทงก็รู้แล้วว่าใครแทง เพียงแต่ฝ่ายผู้ต้องหาฉลาด ไม่ยอมให้ตำรวจสอบปากคำอะไรมาก ซึ่งยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องตามต่อในการสอบสวน คดีความเราว่ากันเรื่องพยานหลักฐานเป็นหลัก ว่าจะปรับเข้าข้อหาไหนได้บ้างในการนำเสนอต่อศาล ที่กำลังดูคือจะสามารถดันเป็นข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนได้หรือเปล่าจากพยานหลักฐานมากกว่า ส่วนจะมาบอกฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกาย มันคงไม่ใช่เพราะเจตนาฆ่ามันชัดเจน
ทนายความชื่อดัง กล่าวต่ออีกว่า หากตำรวจต้องการช่วยเหลือผู้ต้องหาว่าไม่เจตนาฆ่า ตรงนี้จะแก้ปัญหาอย่างไรนั้น เพราะโทษอาจจะเบาลงมา ต้องขอความเป็นธรรมจากอัยการ ให้สั่งพนักงานสอบสวนสอบข้อเท็จจริงเพิ่ม แต่ที่เห็นเบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว ไม่น่ามีอะไรพลาด แต่ก็ต้องตามประกอบสำนวนคดี เพราะยังวางใจไม่ได้ จนกว่าจะสรุปสำนวนส่งอัยการ จากอัยการไปศาลแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายรณณรงค์ กล่าวว่าจะเดินทางไปที่จ.ชุมพร เพื่อติดตามคดี ดูในเรื่องพยานหลักฐานที่จะเอาผิดคนร้ายได้แค่ไหน ทนายกับชาวบ้านมองต่างกันแต่ทนายกับอัยการส่วนมากจะมองทิศทางเดียวกัน เพราะเราเน้นการสืบพยานในศาล แล้วจะไปดูเพิ่มเติมว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมข่มขู่หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือเปล่า เพราะถ้ามีจะยื่นขอให้ถอนการประกันตัวผู้ต้องหาทันที แต่ขอไปดูพยานหลักฐานเพิ่มคดีนี้ผู้เสียหายหลายคนจะมีทนายร่วมทำคดีหลายท่านก็ดี
ก่อนหน้านั้น กลุ่มวัยรุ่นทั้งหมด 15 คน ได้เข้ามอบตัวและรับข้อกล่าวหา พร้อมอีก 2 คน เดินทางมอบตัวในภายหลัง เหลือเพียง 1 คน ที่ยังคงหนีรอดไป เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ โดยทั้งหมดให้การภาคเสธ รับในบางประเด็น บ้างอ้างว่าไปด้วยแต่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุ บ้างอ้างร่วมก่อเหตุแต่ทำร้ายผู้อื่นแต่ไม่ได้ทำร้ายผู้เสียชีวิต.
เรียบเรียงโดย กำพลาภร สำนักข่าวทีนิวส์
ภาพ เฟซบุ๊ก DR.K v.3