ลุ้น!! นิรโทษคือทางออกและคำตอบสุดท้ายของความปรองดองหรือไม่ หลังอนุฯชุดพล.อ.ชัยชาญใกล้ปิดฉาก

ติดตามรายละเอียด http://www.tnews.co.th

มีความคืบหน้าไปมากกับกระบวนการเปิดโต๊ะรับฟังความเห็นจากพรรคการเมืองต่างๆ ที่ตบเท้าเข้าไปพบและเสนอแนวทางการสร้างความสามัคคี ปรองดองต่อคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล เป็นประธาน ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา 

 

จนถึงวันนี้เนื้อหาสาระที่น่าสนใจในความคิดเห็นของพรรคการเมือง เช่น พรรคเพื่อไทย มีประเด็นสำคัญคือ การเสนอให้อภัยซึ่งกันและกัน โดยที่ไม่ได้มีการพูดถึงการนิรโทษกรรม แม้ก่อนหน้านี้จะพยายามเคลื่อนไหวผลักดันให้มีการนิรโทษกรรมให้เกิดขึ้นให้ได้ก็ตาม แต่พรรคเพื่อไทยก็ใช้วิธีเลี่ยงคำ เป็น ให้อภัยแทน 


และพร้อมกันนี้พรรคเพื่อไทยยังเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระที่มาจากทุกภาคส่วนมาดำเนินการในกระบวนการปรองดอง ส่วนพรรคภูมิใจไทย เสนอการสร้างความปรองดองโดยการนิรโทษกรรม คือ การสั่งไม่ฟ้อง หรือ สั่งถอนฟ้องในคดีที่อยู่ในชั้นศาล รวมถึงคดีที่ศาลได้ตัดสินไปแล้วด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความปรองดอง 

 

และในสัปดาห์นี้วันที่ 15 มี.ค. กลุ่มนปช.หรือ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ จะเข้าให้ความเห็น และวันที่ 17 มี.ค.เป็นคิวของกปปส. หรือกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และจากนั้นพล.อ ชัยชาญจะได้เชิญกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มภาคธุรกิจ กลุ่มนักศึกษา กลุ่มนักวิชาการ เข้าไปพูดคุยเสนอแนวความเห็น 


 

 

ขณะที่คณะอนุกรรมการพิจารณาบูรณาการข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มีพล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.สส เป็นประธานจะได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูล และรวบรวมความเห็นคู่ขนานกันไปกับคณะอนุกรรมการรับฟังความเห็นการสร้างความปรองดองชุดพล.อ.ชัยชาญ 

 

และที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือความเคลื่อนไหวของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศด้านการเมืองของ สปท.ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นประธาน ก็มีความเห็นข้อเสนอแนะในการสร้างความปรองดองไว้ว่า ในส่วนการแก้ปัญหาคดีความทางการเมือง สปท.จะไม่เสนอให้นิรโทษกรรม แต่จะเสนอให้มีกระบวนการลดหย่อนโทษ เพื่อให้โอกาสทางคดีอาญาแก่ผู้กระทำผิด เช่น การรอลงอาญา การถอนฟ้อง การจำหน่ายคดีชั่วคราว 


จะนำมาใช้ในคดีความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองทุกประเภท เช่น กรณีปิดสนามบิน กรณียึดทำเนียบรัฐบาล แต่ทั้งนี้จะไม่ครอบคลุมถึงความผิดในการกระทำทุจริต และความผิดตามม.112 รวมถึงความผิดทางความมั่นคง และจากข้อเสนอแนะทั้งหมดนี้ สุดท้ายบทสรุปของการสร้างความปรองดอง จะจบลงที่ คำว่านิรโทษกรรมคือ ทางออกของประเทศหรือไม่ รอจับตา

 

 

 

เรียบเรียง : นิตติยา  บุญตาวัน สำนักข่าวทีนิวส์
ขอบคุณที่มา : แฟนข่าวทีนิวส์กับบุญระดม