ศักดิ์ศรีมนุษย์ต้องมี!! หนุ่มบาร์เทนเดอร์ไม่รับเงิน "อนุสรณ์ จิรพงศ์" แค่อยากได้ยินคำขอโทษ ตร.สั่งปรับเงินหมื่นฐานทำร้ายร่างกาย???

จากกรณีนายอนุสร จิรพงศ์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ไปตบหน้าพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารเกรย์ฮาวด์ คาเฟ่ ในห้างลา วิลล่า สาขาอารีย์ จนกระทั่งภาพจากวงจรปิดหลุดออกมา และผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ที่ สน.บางซื่อ โดยเจ้าตัวอ้างว่าเพียงใช้มือเขกศีรษะพนักงานเพื่อตักเตือนเท่านั้น เพราะพนักงานคนดังกล่าวเรียกตนเองว่า "ป๋า" ส่วนตัวไม่ชอบให้ใครมาเรียกแบบนี้จึงได้ตักเตือนไป ตามข่าวที่ได้เสนอไปก่อนหน้านั้น

ไม่ได้กร่าง...แต่ไม่ชอบ!!!“สปท.”เขกหัวพนง.ร้านอาหาร โมโหเรียก“ป๋า”บอกไม่ชอบ ไม่ใช่มาเที่ยวอาบอบนวด-สุดท้ายโดนแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย (คลิก)

ล่าสุด วันนี้ (14 มี.ค.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน ผกก.สน.บางซื่อ และ พ.ต.ท.จิรภัทร แต้มทอง รอง ผกก. (สอบสวน) สน.บางซื่อ ได้เชิญนายอนุสรณ์ จิรพงศ์ อายุ 60 ปี สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และนายชาตอลงกรณ์ นิลยาน พนักงานบาร์เทนเดอร์ของร้านอาหารดังกล่าว โดยผู้เสียหายเดินทางมาพร้อมนายแสงระวี ช่วยปุ้ม ผู้จัดการร้าน

 

 

 

 

โดย นายชาตอลงกรณ์ กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นพนักงานบาร์เทนเดอร์ของทางร้าน จะมีหน้าที่ผสมเครื่องดื่มให้แก่ลูกค้า ซึ่งวันเกิดเหตุได้ผสมเครื่องดื่มไปให้นายอนุสรณ์ ต่อมามีเพื่อนร่วมงานได้เดินมาบอกว่านายอนุสรณ์เรียกไปพบจึงเดินเข้าไปและได้พูดคุยกัน แต่ด้วยความตื่นเต้นจึงได้เรียกสรรพนามแทนนายอนุสรณ์ว่า "ป๋า" ก่อนหน้านี้จะใช้คำว่า "คุณ" จากนั้นก็เป็นภาพที่ปรากฏในคลิป หลังเกิดเหตุตนรู้สึกน้อยใจและไม่ได้รับความเป็นธรรมว่าตนทำอะไรผิด จึงได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางซื่อ ตอนนี้ตนไม่ติดใจเอาความ และเข้าใจแล้วว่านายอนุสรณ์ไม่ได้ตั้งใจ ก็ต้องขอโทษนายอนุสรณ์ด้วยหากวันนั้นตนให้คำพูดที่ไม่เหมาะสม

 

 

 

 

ด้านนายอนุสรณ์กล่าวว่า ตนขอโทษสังคมและนายชาตอลงกรณ์ ต่อการกระทำของตนที่เกิดขึ้น เนื่องจากตนไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากเคยเจอนายชาตอลงกรณ์และคุ้นเคยกันและเคยบอกว่าไม่ให้เรียกป๋า เพราะมันเป็นคำที่ไม่สุภาพ การกระทำที่เกิดขึ้นวันนั้นคิดว่าเป็นการหยอกล้อ ไม่คิดว่านายชาตอลงกรณ์จะรู้สึกน้อยใจและเสียใจจนเกิดเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถือว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นบทเรียน เพราะด้วยหน้าที่การงานทำให้ต้องระวังเป็นพิเศษและยังทำให้สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ทำให้ได้รับความเสื่อมเสีย อย่างไรก็ตาม ตนก็ได้ขอรับผิดชอบและเยียวยาผู้เสียหายที่ต้องทำให้หยุดงานและเสียรายได้อีกด้วย

 

 

 

 

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของคดีความนั้นเนื่องจากเหตุการณ์นี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดินก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหลักฐานทางการแพทย์ระบุว่ามีรอยฟกช้ำและบวม ประมาณ 2 ซม. จำนวน 3 แผล บริเวณแก้มขวาใช้เวลาในการรักษา 3 วัน พนักงานสอบสวนจึงพิจารณาให้แจ้งข้อกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนลงความเห็นให้มีการปรับสูงสุดในวงเงิน 10,000 บาท พร้อมส่งสำนวนทั้งหมดให้พนักงานอัยการพิจารณาต่อไป.

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย กำพลาภร พุฒิพุทธ สำนักข่าวทีนิวส์