ชื่อนี้มีหนาว...จับตายึดทรัพย์ภาษีหุ้นชิน!!!พลิกปูม“ชัยยะ"-ผู้ถอดยศ“ทักษิณ” เลขาปปง.ที่“บิ๊กตู่”ตั้งเองกับมือ-นายตำรวจน้ำดีที่จับมือยิงM79

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

       จากกรณี พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวถึงการติดตามเรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า นายกรัฐมนตรีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือถึงแนวทางตามกระบวนการกฎหมาย โดยในส่วนของ ปปง. มีหน้าที่สนับสนุนข้อมูลในเรื่องของการติดตามทรัพย์สินของนายทักษิณ ซึ่งตามกฎหมายการฟอกเงินถือว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะหากกลายเป็นคดีฟอกเงิน คดีจะไม่มีหมดอายุความ  และสามารถสืบและยึดทรัพย์ย้อนหลังไปได้ ต่อให้เวลาผ่านไปแล้วหลายปีก็ตาม นอกจากนี้ พล.ต.อ.ชัยยะ ยังกล่าวว่า ตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่งเพียง 8 เดือน สามารถดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์ในคดีสำคัญไปมากกว่า 5 หมื่นล้านบาทแล้วและยังมีคดีใหญ่ๆที่มีมูลค่าสูงที่คาดว่าจะสามารถดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์ได้อีกจำนวนมาก

       ทั้งนี้สืบย้อนประวัติไปพบว่า พล.ต.อ.ชัยยะ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่น 34 ตำแหน่งสุดท้ายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนโยกมานั่งเป็นเลขาธิการ ปปง.ตามคำสั่งหัวหน้าคสช. คือจเรตำรวจแห่งชาติ ก่อนนั้นเป็นที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่ารองผบ.ตร. ขณะที่ตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติก็อยู่ในระนาบเดียวกับรองผบ.ตร.ที่มีลุ้นชิงเก้าอี้แม่ทัพสีกากีได้แต่เมื่อหลุดจากตำแหน่งและสังกัดเดิมมาแล้วตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ก็เท่ากับปิดฉากชีวิตตำรวจ มารับผิดชอบหน้างานใหม่ที่เป็นงานเฉพาะทางอย่างการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

 

       พล.ต.อ.ชัยยะเคยคลี่คลายคดีเกี่ยวกับการเงินการธนาคารหลายคดี ทั้งยังเคยเข้าไปเป็นฝ่ายสืบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ทำคดีใบเหลือง ใบแดง ของนักการเมืองมาแล้วหลายราย ทำให้กลุ่มการเมืองบางกลุ่มบางฝ่ายไม่ค่อยถูกใจนัก โดยเฉพาะในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ส่งเขาขึ้นไปดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 รับผิดชอบพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้โชว์ผลงานจัดการคดีที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองหลายคดี มีการจับกุมมือยิงเอ็ม 79 และทำลายแผนป่วนครั้งใหญ่ในช่วงรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์

ชื่อนี้มีหนาว...จับตายึดทรัพย์ภาษีหุ้นชิน!!!พลิกปูม“ชัยยะ"-ผู้ถอดยศ“ทักษิณ” เลขาปปง.ที่“บิ๊กตู่”ตั้งเองกับมือ-นายตำรวจน้ำดีที่จับมือยิงM79

       กระทั้งเข้าสู่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ชื่อของพล.ต.อ.ชัยยะ ก็เงียบหายไป กระทั่งมาปรากฏเป็นข่าวโด่งดังอีกครั้งในยุค คสช. เมื่อได้รับดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 10) และได้รับมอบหมายหน้าที่สำคัญให้เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการถอดยศตำรวจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และสรุปด้วยมติเอกฉันท์ให้ถอดยศ จนนำไปสู่การออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ถอดยศอดีตนายกฯ กระทั่งกลายเป็น "นายทักษิณ" อย่างทุกวันนี้ นั่นเองทำให้การขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการปปง.ของ พล.ต.อ.ชัยยะ จึงถูกจับตาอีกครั้ง ไม่เฉพาะภารกิจด้านป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน แต่ในมิติของการเมืองยังมองว่าบทบาทของเขาอาจต้องกระโจนสู้รบตามอายัด-ยึดทรัพย์นักการเมือง ผู้กระทำผิดกฏหมายอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง

ชื่อนี้มีหนาว...จับตายึดทรัพย์ภาษีหุ้นชิน!!!พลิกปูม“ชัยยะ"-ผู้ถอดยศ“ทักษิณ” เลขาปปง.ที่“บิ๊กตู่”ตั้งเองกับมือ-นายตำรวจน้ำดีที่จับมือยิงM79

       ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมาราชกิจจานุเบกษา หน้า ๘ เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๑๑๔ ง ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๙ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๔/๒๕๕๙ เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดํารงตําแหน่ง

 

ตามที่ผู้ดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ้นจากตําแหน่งเพราะครบวาระตามกฎหมาย ซึ่งการสรรหาผู้ดํารงตําแหน่งดังกล่าวตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ยังไม่ได้กําหนดจะต้องใช้เวลาอีกยาวนาน ในขณะที่สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมีภารกิจที่ต้องดําเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อให้เป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศ การประเมินตามวงรอบ และการเร่งรัดการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นไปอย่างเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้

 

ข้อ ๑ ให้พลตํารวจเอก ชัยยะ ศิริอําพันธ์กุล พ้นจากตําแหน่ง จเรตํารวจแห่งชาติ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยไม่ต้องสรรหาและให้รักษาราชการในตําแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวตั้งแต่วันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับเป็นต้นไป และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่แทนวุฒิสภาให้ความเห็นชอบต่อไป

 

ข้อ ๒ เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบตามข้อ ๑ แล้ว ให้นําความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งตามมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๘ และมาตรา ๒๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗

 

ข้อ ๓ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

 

สั่ง ณ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ชื่อนี้มีหนาว...จับตายึดทรัพย์ภาษีหุ้นชิน!!!พลิกปูม“ชัยยะ"-ผู้ถอดยศ“ทักษิณ” เลขาปปง.ที่“บิ๊กตู่”ตั้งเองกับมือ-นายตำรวจน้ำดีที่จับมือยิงM79

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย : ศิริพงศ์ หนูแก้ว สำนักข่าวทีนิวส์