เอาจริง!!! "กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง" เดินหน้าเอาผิด "ไกด์นำเที่ยวเกาะเฮ" หลังทำลายปะการัง-ทุบเม่นทะเล เอาใจนทท.!!!

จากกรณีเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา เฟสบุ๊คของ Thon Thamrongnawasawat ของ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(มก.) และผู้เชี่ยวชาญเรื่องทะเล ได้โพสต์ข้อความระบุถึง...กรณีไกด์ดำน้ำที่เกาะเฮ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีพฤติกรรมใช้เศษปะการังที่มีปะการังอ่อนขึ้นเกาะอยู่ ทุบหอยเม่นจนแตกเพื่อล่อให้ปลามากิน จะได้ให้นักท่องเที่ยวชาวจีนได้เข้าไปถ่ายรูป นอกจากนี้ไกด์ยังไม่ดูแลปล่อยปละละเลยให้นักท่องเที่ยวเตะตีนกบทำให้ปะการังแตกหักเสียหาย และให้นักท่องเที่ยวสวมใส่ BCD (เสื้อชูชีพ) ที่มีสภาพเก่ามาก ไม่น่าจะอยู่ในมาตรฐานความปลอดภัย  

 

ต่อมาทางด้าน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้มอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน  (ศวทม.) และสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่๖ (สบทช.๖) ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น  เนื่องจากเกาะเฮเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากมีหาดทรายขาวสะอาดและมีแนวปะการังอยู่ล้อมรอบเกาะ มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศจำนวนนับพันคนในแต่ละวัน รวมทั้งพื้นที่ทะเลรอบเกาะเฮเป็นที่รักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำ เป็นพื้นที่คุ้มครองที่จัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติการประมง ๒๔๙๐ ซึ่งมีสาระสำคัญห้ามบุคคลใดๆ ทำการประมง เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ปลูกสิ่งก่อสร้าง เทระบายของเสียมีพิษ ลงทะเล เป็นต้น นอกจากนี้ หอยเม่น (sea urchin) เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอยู่ในวงศ์เดียวกับพวกปลิงทะเล ปลาดาว หอยเม่นพบอยู่ทั่วไปในแนวปะการัง มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศแนวปะการัง 

 

 

ล่าสุดภายหลังการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ได้พบตัวผู้กระทำผิด พบว่าพนักงานของ บริษัทนำเที่ยว “นนทศักดิ์มารีน” โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นการกระทำของเขาเอง เมื่อพิจารณาตามกฎหมาย พบว่าในส่วนของการทำอันตรายต่อหอยเม่นนั้น ไม่ผิดกฎหมายเนื่องจากหอยเม่นมิได้เป็นสัตว์คุ้มครอง และผู้ทุบหอยเม่นมิได้นำหอยเม่นมาครอบครอง จึงไม่ได้เป็นการละเมิดกฎระเบียบของที่รักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำ 

 

อย่างไรก็ตาม การใช้ปะการังซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครองตาม พรบ. สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕  ไปทุบทำลายหอยเม่นนั้น เป็นการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อปะการังนั้นด้วย จึงถือเป็นความผิด เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมหลักฐานและรวบรวมข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบแห่งความผิด และนำคดีส่งพนักงานสอบสวน และจะเร่งรัดให้มีการดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป  

ขณะล่าสุด ดร.ธรณ์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า...กรณีไกด์ดำน้ำทุบหอยเม่น #กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทำงานรวดเร็ว ใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงนับจากเป็นประเด็น สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ ทำให้พวกเราคนรักทะเลสบายใจ และช่วยสร้างความมั่นใจให้พวกเราที่จะแจ้งข่าวการกระทำผิดใดๆ ในทะเลไทย ขอบคุณกรมทะเลและพี่ที่เป็นคนแจ้งข่าวมากมาย เพื่อนธรณ์ช่วยให้กำลังใจคนทำดีด้วยนะครับ #ทุกอย่างเป็นไปได้ #อย่าหมดหวังจ้ะ

 

 

 

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat