ไม่ได้ขู่แต่เอาจริง!!! ผู้ว่าสตง.เดือดจัด! เตรียมฟันสรรพากร นั่งกินเงินเดือนไปวันๆ ไม่ยอมไล่บี้ภาษีนักการเมือง

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยถึงการเรียกเก็บภาษีเงินได้ย้อนหลังนักการเมือง 60 ราย ในยุครัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า หลังการเปลี่ยนแปลงปี 57 ทางคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มีนโยบายปฎิรูประบบการเก็บภาษีเป็นธรรมกับทุกคนในประเทศนี้ จึงได้มีวางมาตรการปิดช่องโห่วลดความเหลื่อมล้ำให้คนทุกอาชีพมาเข้าสู่ระบบเดียวกัน โดยทุกอาชีพมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้

นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สตง.ได้ดำเนินการมาต่อเนื่อง เรียกเก็บภาษี เก็บค่าเปรียบเทียบปรับ มีเงินมาเข้าหลวงมาได้เกือบหมื่นล้านบาท และในช่วงต้นปี 58 ที่ สตง.ส่งรายชื่อนักการเมืองเหล่านี้ไปให้กรมสรรพากรจัดเก็บภาษี ทางกรมสรรพากรก็ยังไม่ดำเนินการอะไร แต่เบี่ยงเบนไปทำหนังสือสอบถามสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าทั้ง 60 นักการเมือง ร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ ถ้ารวยเป็นปกติก็จะไม่จัดเก็บภาษีรายได้เพิ่ม
          นายพิศิษฐ์ กล่าวต่อว่า ตนได้สั่งกำชับไปอีกรอบให้ สตง.ทำรายงานเตือนกรมสรรพากรว่าถ้าพวกนี้ร่ำรวยผิดปกติก็โดนสอบทุจริตไปหมดแล้ว แต่ถึงแม้รวยเป็นปกติ พบว่ามีบัญชีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นก็เป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรต้องจัดเก็บภาษีเพิ่ม จะเห็นจากการแสดงบัญชีทรัพย์สิน 3 ช่วง ก่อนเข้า หลังเข้า และพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว 1 ปี มีรายได้เพิ่มมาก บางคนจาก 50 ล้าน เป็น 500 ล้าน บางรายเพิ่มเป็นพันล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาก็มีข่าว่าเป็นถึงอดีตนายกฯ และรัฐมนตรี

"ใครเป็นใครไป ประชาชนไปเปิดดูได้ในเว็บไซต์ของ ป.ป.ช.ชุดนี้เป็นกลุ่มใหญ่ที่มีรายได้เพิ่มอย่างชัดเจน ไม่อยากให้เป้าใหญ่หลุด จึงเร่งส่งรายงานให้กรมสรรพากรดำเนินการเรียกเก็บก่อน ชุดอื่นๆ กำลังจะตามมานักการเมืองที่อยู่ในสภา ก็ไม่เสียภาษีมีเป็น 100 ราย โดย คตง.มีนโยบายว่าเงินแผ่นดินเป็นเงินบริสุทธิ์ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไหม้ และไม่มีอายุความอยู่ที่ไหนตามทวงคืนได้หมด" นายพิศิษฐ์ กล่าว และว่า ดังนั้น สตง.จึงออกมาเร่งรัดกรมสรรพากร หากยังปล่อยปะละเลยอาจโดนข้อหาละเว้นไม่ปฎิบัติหน้าที่ ถ้ายังไม่ดำเนินการใดๆ คงส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดกรมสรรพากร มีพฤติกรรมใช้กฎหมายประมวลรัษฎากรเป็นคุณแก่ผู้จงใจหลีกเลี่ยงภาษี รวมทั้งกรณีหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้นชินคอร์ปฯ ก็พยายามยกข้อกฎหมายที่ทำอะไรไม่ได้และหมดอายุความ พูดอยู่แค่นี้เพื่อไม่ต้องทำอะไรนั่งกินเงินเดือนประชาชาชนไปวันๆ