โดนหนักให้สมกับความผิด!!! ทหารหิ้ว“แก๊งโกตี๋”ซุกอาวุธส่งกองปราบ อ่วม!เจอข้อหา“ผิดม.112”ด้วย ออกหมายจับเพิ่มอีก3อยู่“อุดรฯ-เลย-เชียงราย”

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารฝ่ายความมั่นคง สนธิกำลังเข้าตรวจค้นแหล่งซุกซ่อนอาวุธสงคราม จำนวน 9 จุด ในพื้นที่ 7 จังหวัด เครือข่ายของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี และการตรวจค้นยึดของกลางในคดีได้ดังนี้ 1. อาวุธปืน จำนวน 13 กระบอก 2. กระสุนปืน จำนวน 5,949 นัด 3.ชิ้นส่วนและส่วนควบอาวุธปืน จำนวน 7 รายการ 4.สิ่งเทียมอาวุธปืน จำนวน 8 กระบอก พร้อมซองบรรจุกระสุน จำนวน 25 ซอง  โดยหลังจากนี้จะมีการส่งตัวไปยังกองปราบปรามสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

       ล่าสุดวันนี้(24มีค.) เจ้าหน้าที่ทหาร ได้คุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 9 คน เครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ซึ่งถูกจับกุมในคดีครอบครองอาวุธสงคราม ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม หลังถูกควบคุมตัวที่มณฑลทหารบกที่ 11 ครบกำหนด 7 วัน โดยมี พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ร่วมสอบปากคำ โดยหลังจากนี้จะคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ แจ้งข้อหาและดำเนินคดีเพิ่มเติม เนื่องจากอาวุธสงครามที่ตรวจยึดได้ เป็นของที่หายไประหว่างการชุมนุมทางการเมือง เมื่อเดือนเมษายน 2553 ซึ่งคณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับเป็นคดีพิเศษ

       ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามผู้ต้องหาทีละคนถึงความผิดที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งให้เล่าเหตุการณ์ถึงความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับโกตี๋ให้ฟัง โดยนายธีรชัย อุตรวิเชียร (ระพิน) ได้ยอมรับว่า โกตี๋ได้นำอาวุธมาฝากไว้ปี2556 และเมื่อการตั้งเวทีปราศรัยที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ก็มีการนำอาวุธออกไป ส่วนผู้ต้องหาอื่นๆอีก8คนยอมรับข้อกล่าวหา ยกเว้นมีเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่ปฏิเสธ และในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำทีมแพทย์ออกมาแถลงยืนยันการตรวจร่างกายผู้ต้องหาทั้งหมดด้วยโดยยืนยันว่า ไม่มีการซ้อม หรือทำร้ายร่างกายใครทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามว่าที่ ร.ต.สุริยศักดิ์  ฉัตรพิทักษ์กุล นอกจากโดนแจ้งข้อหาความผิดฐานซ่องโจรแล้ว ยังมีหมายจับของศาลทหารกรุงเทพในฐานความผิดตามมาตรา112ด้วย

 

       นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังแถลงอีกว่าล่าสุดได้ออกหมายจับโกตี๋ ฐานความผิดครอบครองอาวุธ และมีเครื่องอาวุธ กระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งยังออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก3คน คือ นางสาวบุญเต็ม รักษาภายใน อายุ54ปีอยู่อุดรธานี มีความผิดฐานซ่องโจร นายสมจิตร สาบุดดา อายุ64ปี ภูมิลำเนาจังหวัดเลย ฐานความผิดซ่องโจร และนายวันลพ รัตน์รุ่ง อายุ 45ปี ภูมิลำเนาจังหวัดเชียงราย มีความผิดฐานซ่องโจร