- 05 เม.ย. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://www.tnews.co.th
จากกรณีมาาตรการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งในวันนี้ (วันที่ 5 เม.ย.) เป็นวันแรกที่จะเริ่มควบคุมบังคับใช้กฎหมายตามประกาศของคสช. โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ได้มอบแนวทางการปฏิบัติแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ โดยให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ทั้งกับรถขนส่งสาธารณะ รถโดยสารและรถยนต์ทุกประเภทที่ฝ่าฝืนไม่รัดเข็มขัดนิรภัย หากพบว่าที่นั่งภายในรถจัดให้มีเข็มขัดแต่ประชาชนไม่รัดเข็มเข็ดนิรภัยก็จะต้องถูกปรับ 500 บาท ทันที
สำหรับกรณีรถกระบะมีแคปนั้น ขณะนี้พบว่าประชาชนเกิดความสับสนว่าสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้หรือไม่และจะมีความผิดหรือไม่ สตช.ได้กำชับกองบัญชาการต่างๆ ให้ถือปฏิบัติตามคำสั่งคือ ห้ามรถกระบะมีแคปบรรทุกคนโดยเด็ดขาดหากพบเห็นจะดำเนินการปรับทันที เพราะในการจดทะเบียนของรถกระบะนั้นจะจดทะเบียนเป็นรถกระบะบรรทุกส่วนบุคคลไม่เกิน 7 นั่งซึ่งจะมีป้ายทะเบียนกำกับประเภทรถ เป็นป้ายสีขาวตัวอักษรสีเขียว อีกทั้งวัตถุประสงค์ของแคปคือ มีไว้เพื่อตั้งวางสิ่งของเท่านั้น ที่ผ่านมากลับมีการใช้บรรทุกคนจนเป็นการเคยชิน ซึ่งแคปนั้นไม่มีอุปกรณ์สำหรับความปลอดภัยของผู้ที่นั่งอยู่ในแคปและไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้คนนั่ง อย่างไรก็ตามในการจับปรับรถกระบะที่บรรทุกคนโดยสารในแคปนั้น เจ้าหน้าที่ไม่ได้จับปรับในข้อหาไม่รัดเข็มขัดนิรภัย แต่จะปรับในข้อหา ใช้รถยนต์ผิดประเภท ซึ่งถือว่าผิดตา พ.ร.บ.รถยนต์ 2522 มาตรา 21 ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท นอกจากนี้กรณีที่ให้ผู้โดยสารนั่งข้างหลังกระบะก็ถือว่ามีความผิดเช่นกัน
ล่าสุด รายการต่างคนต่างคิด ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องต่อเรื่องดังกล่าว หนึ่งในนั้นคือตัวแทนเสียงสะท้อนจากประชาชนคือ มาร์ค พิทบูล ที่ตอนหนึ่งในรายการ คุณมาร์คได้กล่าวว่า หากต้องการจะให้ทุกคนยอมรับกฎหมายตำรวจจะต้องยกเลิกเปอร์เซ็นใบสั่ง พร้อมทั้งหากเจ้าหน้าที่ทำผิดเสียเองให้ปรับ 2-10 เท่า ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับประชาชน
กรุณารอคลิปสักครู่...
กรุณารอคลิปสักครู่...
ขอบคุณ รายการทุบโต๊ะข่าว , ต่างคนต่างคิด อัมรินทร์ทีวี