คนนี้สวนกระแส !!! ผู้การอุดรฯ เชียร์จับนั่งท้ายกระบะ ชี้กม.มีนานแล้ว แต่ผ่อนผันจนชิน ถึงเวลาปฏิรูป ทำไม่ได้

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมานผบก.ภ.จว.อุดรธานี แสดงความเห็นในกลุ่มไลน์ข่าวประชาสัมพันธ์ถึงกรณีมาตรการห้ามนั่งท้ายรถกระบะ 1.กฎหมายมีมาแต่ พ.ศ.2522 ครับ2.ผ่อนผันกันเรื่อยมา จนเกิดความเคยชิน3.ถึงเวลาแล้วที่เราต้องปฏิรูป ความสะดวกสบายของเราเองด้วย4.จับได้มาแต่ปี 2522 แต่เพิ่งมาตกใจ ว่าจะเคร่งครัดกันปีนี้ เพราะเมื่อปีใหม่ ตายกันยกคันรถ ไม่ทำไม่ได้แล้ว5.จนท.ควรว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งหมายถึงต้องจับก่อนจึงมาว่ากล่าวตักเตือน ครับ

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มาตรา 44 คุมเข้มการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งดื่มไม่ขับ ขับรถเร็วและไม่คาดเข็มนิรภัยในรถยนต์ส่วนบุคคลและรถสาธารณะ รวมถึงคุมเข้มรถโดยสารสาธารณะกับผู้ประกอบการและพนักงานขับรถที่เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ

นอกจากนี้ขอให้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่เห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงฉบับที่ 16 ของพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 โดยกำหนดให้ผู้ขับขี่ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี และผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถหรือมีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว หากมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้ถือว่า เมาแล้วขับ
          ขณะเดียวกันได้กำชับจังหวัดส่งเสริมการจัดกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์ตามประเพณี
          กำหนดพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยและปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยแต่ละจังหวัดจะเป็นผู้กำหนดจุดการเล่นน้ำ ขอเน้นย้ำว่า ห้ามโดยสารท้ายรถกระบะโดยเด็ดขาดในทุกกรณี เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย รวมถึงห้ามโดยสารท้ายกระบะเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา ขอให้ใช้วิธีอื่นในการเดินทางกลับ

และมีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายหากเกิดอุบัติเหตุ ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยมากกว่าความสะดวก แล้วในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็อยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ช่วงเวลาเทศกาลสงกรานต์ให้เป็นไปด้วยความเหมาะสม ตามประเพณีวัฒนธรรม เช่น การเข้าวัดทำบุญ เป็นต้น และยิ่งในช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุกฝ่ายยังอยู่ในบรรยากาศแห่งความเศร้าโศก