โหดขนาดนี้ปกป้องทำไม!!น้องชายนักโทษตายแฉหมดเปลือก ผู้คุมขาโหดซ้อมนักโทษชาวนครปฐมตายคาคุกมาแล้วแต่เรื่องเงียบ พวกตนขอเอาเรื่องถึงที่สุด

จากกรณีที่นายบุญยืน ศุภรักษ์ อายุ 74 ปี พร้อมด้วยญาติ ๆ ได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากนายสุริยา ศุภรักษ์ อายุ 47 ปี บุญชาย  ซึ่งเป็นนักโทษในคดีอาญาจากเรือนจำตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเสียชีวิตปริศนาในเรือนจำตะกั่วป่า จ.พังงา  กลับมาบำเพ็ญกุศลศพที่วัดบ้านเกิด วัดเถลิงกิตติยาราม หมู่ 3 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2560 โดยในเบื้องต้นทางเรือนจำตะกั่วป่าได้แจ้งกับญาติว่าทำงานจนเป็นลมเสียชีวิต แต่ญาติ ๆ ไม่เชื่อเนื่องจากร่างกายของนายสริยา ผู้ตายมีร่องรอยบาดแผลซ้ำบวมอย่างหนัก จึงเรียกร้องขอความเป็นธรรมและประกาศไม่เผาศพนายสุริยา ผู้ตาย  จากเดิมที่กำหนดเผาในวัน 6 เม.ย. 2560  ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ 7 เม.ย.60  นายชัยพล ศุภรักษ์ อายุ 45 ปี น้องชายของนายสุริยา ผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้นักโทษเรือนจำตะกั่วป๋า จ.พังงา ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตไปแล้ว 1 ราย เป็นคนจังหวัดนครปฐม ทางญาติ ๆ เขามารับศพกลับภูมิลำเนา และจะมีการเรียกร้องขอความเป็นธรรมแต่เรื่องก็เงียบหายไป โดยต่างเชื่อกันว่าถูกผู้คุมคนเดียวกันทำร้ายร่างกาย  แต่เมื่อเรื่องเงียบหายไปผู้คุมคนนี้จึงเหิมเกริมหนักคิดว่าไม่มีใครทำอะไรตัวเองได้จึงทำร้ายร่างกายนายสุริยา พี่ชายตนเป็นประจำ และวันที่ 30 มี.ค. 2560 ลงมือทุบตีด้วยของแข็งไม่มีคมจนร่างกายบวมซ้ำอย่างหนัก ก่อนให้ไปนอนกลาวงลานทรายตากแดดจนนายสุริยา พี่ชายเสียชีวิตในสภาพน่วมไปทั้งตัว  ในขณะที่ตนและญาติ ๆ ไปรับศพที่ รพ.ตะกั่วป่าทรายยังติดเปรอะเปื้อนเต็มร่างกาย จึงเรียกร้องให้กรมราชทัณฑ์ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่าเลี้ยงผู้คุมที่มีพฤติกรรมโหดเหี้ยมเช่นนี้เอาไว้ เพราะสันดานคงแก้ไม่หายสักวันคงจะมีนักโทษคนใดคนหนึ่งตกเป็นเหยื่อโหดอีกอย่างแน่นอน

“ตนและญาติ ๆ ไม่แปลกใจที่นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า นายสุริยา พี่ชายตนและนักโทษอีก 1 คนก่อเหตุวิวาทกันในเรือนนอนเมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 30 เม.ย. ผู้คุมจึงสั่งให้คู่กรณีลงมาฝึกวินัย ด้วยการให้นอนตากแดดกลิ้งไปกลิ้งมา จนร่างกายเกิดรอยไหม้ ประกอบกับวันเกิดเหตุแดดแรง ทำให้นักโทษเกิดอาการฮีทสโตรก หรือโรคลมแดดเสียชีวิต  เพราะเราคิดมาตั้งแต่ต้นว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องคงต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว แต่ไม่อยากให้หลับหูหลับตาปกป้อง ขอให้ลงไปดูรายละเอียดการชันสูตรพลิกศพทั้งของ รพ.ตะกั่วป่า และ นิติเวช รพ.สุราษฏร์ธานี สภาพศพมีทั้งบาดแผลถลอก ฟกซ้ำบวม ทั่งร่าง มีทั้งแผลเก่าและแผลใหม่ ที่สำคัญก่อนตายนายสุริยา เคยชี้ให้ “น้องฟิล์ม” บุตรชายวัย 13 ปีที่ไปเยี่ยมดูผู้คุมคนที่ทำร้ายตัวเองอย่างโหดเหี้ยมหลายครั้ง ท่านอธิบดีตรวจสอบให้ชัดเจนเสียก่อนอาจจะถึงบางอ้อไม่ใช่ยืนยันตารมรายงานของเจ้าหน้าที่เรือนจำตะกั่วป่า จ.พังงา อย่างเดียว”  นายชัยพล กล่าว.

ข่าว/ภาพ  นวรัตน์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค ทีนิวส์ จ.นครศรีธรรมราช