สันดานโจร!! ทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น “โว” ยังมีมาตรการ “จัดหนัก” ซีเรีย อีกเพียบ หลังเปิดมาตรการแรก ระดมยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์ค ถล่มฐานทัพ

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว กรณีนางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่มีทางเพิกเฉยต่อการที่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าพลเรือนของตัวเองอีก โดยทางด้านสหรัฐฯได้เตรียมการไว้มากกว่า การถล่มฐานทัพ เหมือนที่ผ่านมา แต่ก็หวังว่า จะไม่ต้องลงมือปฏิบัติ หลังจากที่เปิดปฏิบัติมาตรการแรกไปแล้ว

 

ส่วนทางด้าน นายวลาดิเมียร์ ซาฟรอนคอฟ อัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวประณามปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน เนื่องจากไม่ได้ผ่านการพิจารณาของยูเอ็นเอสซีก่อน และเป็นการเจตนาโจมตีรัฐอธิปไตย พร้อมทั้งย้ำเตือนให้สหรัฐฯ เตรียมผลที่จะตามมาในอนาคต

 

ส่วนทางด้านด้านนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวขอร้องให้คู่กรณีทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงต่อกัน และผลักดันการเจรจาสันติภาพครั้งใหม่ แม้การหารือ 5 ครั้งที่ผ่านมาแทบไม่ได้ความคืบหน้าแต่อย่างใด

 

 

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งให้กองทัพสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อฐานทัพอากาศเชย์รัต ในจังหวัดฮอมส์ ที่อยู่ทางตะวันตกของซีเรีย เมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเรือพิฆาต ยูเอสเอส รอสส์ และ ยูเอสเอส พอร์เตอร์ ระดมยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์ค รวมกัน 59 ลูก ทำลายฐานทัพจนเสียหายอย่างหนัก และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน ในจำนวนนี้ 11 คนเป็นพลเรือน โดยผู้นำสหรัฐฯ ให้เหตุผลของการโจมตีในครั้งนี้ ว่าเพื่อตอบโต้การที่ซีเรีย ใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือนในจังหวัดอิดลิบ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 89 คน รวมถึงเด็ก 33 คน