- 08 เม.ย. 2560
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
กลายเป็นประเด็นเหตุที่เริ่มต้นจากปมร้าวในครอบครัวแต่กำลังกลายเป็นคดีอาญาซึ่งต้องติดตามบทสรุปสุดท้าย เมื่อมีรายงานข่าวว่า น.ส.วิไลลักษณ์ (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 42 ปี และนายอภิเชฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ได้ตัดสินใจเข้าร้องทุกข์กัย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี สืบเนื่องจากนางสาวใกล้รุ่ง (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 40 ปี น้องสาว ทำหน้าที่เป็นแคชเชียร์ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ถูกนายเอก (นามสมมติ) สมาชิกเทศบาล (สท.) ใน จ.เพชรบุรี และเป็นอดีตสามีดักฉุดขึ้นรถนำตัวไปกักขังอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งในป่าลึก พื้นที่ จ.เพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังพยายามง้อขอคืนดีแต่ฝ่ายหญิงไม่ยอม
ทั้งนี้ น.ส.วิไลลักษณ์ เล่ารายละเอียดเพิ่มเติมว่า เดิมทีน้องสาวอยู่กินกับนายเอกมาประมาณ 10 ปี จนมีลูกด้วยกัน 2 คน อายุ 10 ขวบ กับ 7 ขวบ แต่ต่อมาช่วง 2 ปีหลัง น้องสาวรู้ว่าฝ่ายชายไปมีหญิงใหม่และมีลูกด้วยกันจึงได้ขอแยกทาง เพียงแต่ยังคงอยู่อาศัยอยู่ที่บ้านของนายเอก เพราะเห็นแก่ลูกทั้งสองคน รวมถึงมีพ่อกับแม่ฝ่ายชายอยู่ด้วย ซึ่งต่างคนก็ทำหน้าที่พ่อและแม่กันเท่านั้น ต่อมาน้องสาวได้คบหากับนางสาววรรณ (นามสมมติ) ซึ่งมีบุคลิกเป็นทอมในฐานะเพื่อนสนิท จนนายเอกรู้เข้าก็เกิดการหึงหวงกระทั่งมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้งถึงขั้นลงไม้ลงมือ
กระทั่งเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา น้องสาวตัดสินใจจะย้ายออกจากบ้านฝ่ายชายเพื่อกลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่จ.นครราชสีมา แต่ภายหลังเก็บเสื้อผ้าและนั่งรถกระบะออกมาพร้อมเพื่อนสนิท เพื่อนำกุญแจมาคืนให้ที่ทำงานที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ .3 ต.หนองสโน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ระหว่างนั้นได้ถูกนายเอกขับรถกระบะมาประกบและปาดหน้า ก่อนเดินลงจากรถมาทำร้ายชกต่อย นางสาววรรณคนขับ จนได้รับบาดเจ็บ ส่วนลูกน้องของนายเอกที่นั่งมาด้วยได้เดินมาฉุดน้องสาวลงจากรถและบังคับข่มขู่ให้ไปขึ้นรถก่อนจะพากันขับหลบหนีไป
จนกระทั่งล่าสุดเช้านี้ (8 เม.ย.) ทางน้องสาวได้แอบโทรศัพท์ติดต่อมาบอกว่าถูกนายเอกใช้เชือกมัดมือจับไปไว้ในถ้ำแห่งหนึ่งให้นั่งตากฝนไม่ยอมให้กินข้าว จึงอยากให้หาทางช่วยเหลือ กลับบ้านโดยด่วนก่อนจะวางหูไป ทางครอบครัวจึงเกรงว่าน้องสาวจะได้รับอันตราย เลยตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณาดังกล่าว
โดยภายหลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสานงานไปยัง พล.ต.ต สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ขอให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตามตัวนายเอก และนางสาวใกล้รุ่ง กลับคืนสู่สวัสดิภาพโดยเร็ว ทั้งนี้เบื้องต้นเชื่อนายเอกคงจะโมโหจนเกิดอารมณ์ชั่ววูบจึงตัดสินใจทำแบบนั้นไปและคาดหวังว่าจะไม่ทำอะไรไปเกินกว่าเหตุเพื่อเห็นแก่ลูกทั้ง 2 คน