สันดานเห็นแก่ตัว!?!  สท.คนดังเมืองเพชรฯซุกกิ๊กฉุนเมียเก่าตีจากคบทอม บุกฉุดขังถ้ำให้ตากฝนอดข้าว ญาติโร่ร้อง "ปวีณา" ช่วยด่วนๆ !?!

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

กลายเป็นประเด็นเหตุที่เริ่มต้นจากปมร้าวในครอบครัวแต่กำลังกลายเป็นคดีอาญาซึ่งต้องติดตามบทสรุปสุดท้าย เมื่อมีรายงานข่าวว่า   น.ส.วิไลลักษณ์ (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 42 ปี และนายอภิเชฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41  ปี  ได้ตัดสินใจเข้าร้องทุกข์กัย นางปวีณา หงสกุล  ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี  สืบเนื่องจากนางสาวใกล้รุ่ง (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ  40 ปี  น้องสาว  ทำหน้าที่เป็นแคชเชียร์ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง  ถูกนายเอก (นามสมมติ)  สมาชิกเทศบาล (สท.) ใน จ.เพชรบุรี  และเป็นอดีตสามีดักฉุดขึ้นรถนำตัวไปกักขังอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งในป่าลึก พื้นที่ จ.เพชรบุรี  ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังพยายามง้อขอคืนดีแต่ฝ่ายหญิงไม่ยอม

ทั้งนี้  น.ส.วิไลลักษณ์  เล่ารายละเอียดเพิ่มเติมว่า  เดิมทีน้องสาวอยู่กินกับนายเอกมาประมาณ 10 ปี  จนมีลูกด้วยกัน 2 คน อายุ 10 ขวบ กับ 7 ขวบ  แต่ต่อมาช่วง 2 ปีหลัง  น้องสาวรู้ว่าฝ่ายชายไปมีหญิงใหม่และมีลูกด้วยกันจึงได้ขอแยกทาง  เพียงแต่ยังคงอยู่อาศัยอยู่ที่บ้านของนายเอก เพราะเห็นแก่ลูกทั้งสองคน  รวมถึงมีพ่อกับแม่ฝ่ายชายอยู่ด้วย  ซึ่งต่างคนก็ทำหน้าที่พ่อและแม่กันเท่านั้น  ต่อมาน้องสาวได้คบหากับนางสาววรรณ (นามสมมติ)  ซึ่งมีบุคลิกเป็นทอมในฐานะเพื่อนสนิท จนนายเอกรู้เข้าก็เกิดการหึงหวงกระทั่งมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้งถึงขั้นลงไม้ลงมือ

กระทั่งเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา น้องสาวตัดสินใจจะย้ายออกจากบ้านฝ่ายชายเพื่อกลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่จ.นครราชสีมา  แต่ภายหลังเก็บเสื้อผ้าและนั่งรถกระบะออกมาพร้อมเพื่อนสนิท เพื่อนำกุญแจมาคืนให้ที่ทำงานที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ .3 ต.หนองสโน อ.เมือง จ.เพชรบุรี   ระหว่างนั้นได้ถูกนายเอกขับรถกระบะมาประกบและปาดหน้า ก่อนเดินลงจากรถมาทำร้ายชกต่อย นางสาววรรณคนขับ จนได้รับบาดเจ็บ  ส่วนลูกน้องของนายเอกที่นั่งมาด้วยได้เดินมาฉุดน้องสาวลงจากรถและบังคับข่มขู่ให้ไปขึ้นรถก่อนจะพากันขับหลบหนีไป

 

จนกระทั่งล่าสุดเช้านี้ (8 เม.ย.) ทางน้องสาวได้แอบโทรศัพท์ติดต่อมาบอกว่าถูกนายเอกใช้เชือกมัดมือจับไปไว้ในถ้ำแห่งหนึ่งให้นั่งตากฝนไม่ยอมให้กินข้าว   จึงอยากให้หาทางช่วยเหลือ กลับบ้านโดยด่วนก่อนจะวางหูไป   ทางครอบครัวจึงเกรงว่าน้องสาวจะได้รับอันตราย เลยตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณาดังกล่าว

 

 โดยภายหลังรับเรื่อง นางปวีณา  ได้ประสานงานไปยัง พล.ต.ต สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7  ขอให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตามตัวนายเอก และนางสาวใกล้รุ่ง กลับคืนสู่สวัสดิภาพโดยเร็ว  ทั้งนี้เบื้องต้นเชื่อนายเอกคงจะโมโหจนเกิดอารมณ์ชั่ววูบจึงตัดสินใจทำแบบนั้นไปและคาดหวังว่าจะไม่ทำอะไรไปเกินกว่าเหตุเพื่อเห็นแก่ลูกทั้ง 2 คน