- 10 เม.ย. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://www.tnews.co.th
กรมป่าไม้เปิดรับสมัครข้าราชการป่าไม้สายพันธุ์ใหม่ 30 คน ระบุนำร่องมาเด็กจบด้านเกษตรมารับใช้ชาติ นำความรู้ด้านเกษตรผนวกด้านป่าไม้ให้ความรู้เกษตรกร แนะเลิกปลูกพืชเชิงเดี่ยวและหันมาปลูกพืชแบบผสมผสาน
นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมป่าไม้เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งเจ้าพนักงานป่าไม้ปฏิบัติงาน จำนวน 30 ตำแหน่ง โดยมีอัตราเงินเดือนระหว่าง 9,400 – 10,340 บาท โดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้อนุมัติและกำหนดหลักเกณฑ์รับคนที่จบวุฒิ ปวช. ปวส. และปวท. ด้านเกษตร เพื่อมาปฏิบัติงานดูแลในพื้นที่เขาหัวโล้น เนื่องจากขณะนี้วงการป่าไม้ไม่มีโรงเรียนป่าไม้แพร่ เพื่อจะผลิตนักเรียนป่าไม้ ซึ่งรุ่นสุดท้ายคือรุ่นตั้งแต่ปี 2536 ปัจจุบันมีอายุ 40 กว่าปีแล้ว จึงอยากรับคนรุ่นใหม่เข้ามาสานต่อด้านงานป่าไม้ โดยมีเงื่อนไขตามที่ก.พ.กำหนด คือ 1.ต้องมีวุฒิการศึกษาด้านเกษตร และผ่านการสอบภาค ก.จาก ก.พ.
นายชลธิศ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่ประสงค์จะสมัครสอบ สามารถสมัครได้ทางอินเตอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 19 เมษายน นี้ ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ https://forest.job.thai.com และดำเนินการตามขั้นตอน จากนั้นในวันที่ 2 พฤษภาคม 2560
กรมป่าไม้จะประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบและระเบียบเกี่ยวกับการสอบผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งหลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขันจะแบ่งเป็น 2 ภาค คือ การสอบข้อเขียน และการทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย โดยต้องวิ่ง 20 กิโลเมตร ภายใน 3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นไปตามหลักสูตรของป่าไม้แพร่ ทั้งนี้คาดว่าจะได้บรรจุเป็นข้าราชการในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ เมื่อรับข้าราชการสายพันธุ์ใหม่มาแล้วจะต้องฝึกอบรมหลักสูตรของโรงเรียนป่าไม้แพร่ 6 เดือน โดยมีนายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ รองอธิบดีป่าไม้ เป็นคนกำหนดหลักสูตร เพราะจบโรงเรียนป่าไม้แพร่ พร้อมนายอรรถพล เจริญชันษา ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร ช่วยฝึกหัดด้านการป้องกันรักษาป่า การลาดตระเวน การใช้อาวุธ การดับไฟป่า การดำรงชีพในป่า เป็นต้น ซึ่งป่าไม้สายพันธุ์ใหม่เหล่านี้จะต้องไปประจำอยู่ที่ศูนย์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ จึงมีความจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเพื่อดำรงชีพอยู่ในพื้นที่ให้ได้ ซึ่งต้องประจำการอย่างน้อย 2 ปี จึงจะสามารถขอโยกย้ายไปอยู่ที่อื่นได้
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ประเทศไทยแบ่งพื้นที่ป่าเป็น 2 ป่า คือ ป่าอนุรักษ์ และป่าเศรษฐกิจ โดยกรมป่าไม้ต้องดูแลในพื้นที่ป่าเศรษฐกิจ ซึ่งนอกจากข้าราชการสายพันธุ์ใหม่จะมีความรู้ด้านพื้นฐานด้านป่าไม้แล้ว จำเป็นต้องนำความรู้ที่ตนเองศึกษามาด้านเกษตรมาผนวกใช้กับงานป่าไม้ เพื่อให้ความรู้กับชาวบ้านหรือเกษตรกรในพื้นที่ เช่น การแนะนำให้เลิกปลูกพืชเชิงเดี่ยว และหันมาปลูกพืชแบบผสมผสานระหว่างพืชผลทางเศรษฐกิจและพืชไม้ป่า เช่น การปลูกแมคคาเดเมีย กาแฟ เป็นต้น
“นับเป็นครั้งแรกที่กรมป่าไม้เปิดโอกาสให้กับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้จบป่าไม้โดยตรงเข้ามาเป็นข้าราชการับใช้ประเทศชาติ ดูแลทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งข้าราชการเหล่านี้เปรียบเสมือนต้นไม้ 1 ต้น แต่เมื่อรวมกันเป็นหมู่ไม้ก็จะกลายเป็นผืนป่าในที่สุด” อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว
