อีกหน้าประวัติศาสตร์!! จากหมุดคณะราษฎร ประวัติศาสตร์ไทยกำลังเดินไปสู่ข้อมูลประวัติศาสต์มุมกลับ??

จากกรณีที่มีข่าวเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า หมุดคณะราษฎรรำลึกเหตุการณ์การอภิวัฒน์สยาม ได้ถูกเปลี่ยนเป็นหมุดใหม่ จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางมาจนถึงวันนี้ และที่น่าสนใจก็คือ ความเคลื่อนไหวที่กำลังตามมา ไม่เฉพาะแค่ความเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้นแต่ยังมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ในอีกด้านหนึ่งหลั่งไหลออกมาเช่นกัน

 

 

โดยเฉพาะกับข้อมูลทางประวัติศาสตร์ในช่วงปี 2475 กับความเคลื่อนไหวของคณะราษฎรในวันนั้นวันที่ 24 มิ.ย. 2475 นำโดย พ.อ พระยาพหลพลพยุหเสนา ที่ได้กระทำการยึดอำนาจการปกครองประเทศจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.7 เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันนั้น และมาถึงวันนี้หน้าของประวัติศาสตร์ในอีกมุมหนึ่ง ก็กำลังถูกถ่ายทอดออกมาด้วยยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร ซึ่งหากใครเรียนประวัติศาสตร์มาต่างรู้ดีว่า เมื่อเป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์แล้ว ไม่มีคำว่าถูก คำว่าผิด ตราบใดที่ความเห็น หรือการวิเคราะห์นั้นๆยืนอยู่บนข้อมูลและหลักฐานที่มี

 

 

และในเฟซบุ๊กของผู้ที่ใช้ชื่อว่า ภัทร เหมสุข โพสต์ว่า สิ่งหนึ่งที่มีนอกเหนือจากคำบอกเล่าที่ไม่ได้บันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์ จากบรรพบุรุษที่อยู่ในเหตุการณ์จริงแล้ว เค้ายังมีหนังสือพิมพ์ในวันนั้นวันที่ 24 มิ.ย. 2475 ที่มีประกาศคณะราษฎร ลงตีพิมพ์ไว้ในหนังสือพิมพ์วันนั้นว่า... "ด้วยบัดนี้ คณะราษฎรได้จับพระบรมวงษานุวงศ์ไว้เป็นประกันแล้ว ถ้าผู้ใดขัดขวางคณะราษฎร ผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษ และพระบรมวงษานุวงศ์จะต้องถูกทำร้ายด้วย" และในโพสต์ของคุณ ภัทรโพสต์ต่อไปว่า คนไม่มีโคตรเหง้าบรรพบุรุษที่ได้รับผลกระทบในครั้งนั่นจะไม่มีทางเข้าใจหรอกว่า ตั้งแต่พระมหากษัตริย์ลงมาถึงข้าราชการระดับเล็ก ล่างสุดนั้นเจ็บปวดเพียงใดในเหตุการณ์ครั้งนั้น นี่เป็นเนื้อหาในเฟซบุ๊กของผู้ที่ใช้ชื่อว่า ภัทร

 

 

 

 

แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ในวันนั้นร.7 พระองค์ตัดสินพระทัย ไม่สู้ เพราะพระองค์คงตระหนักดีว่า หากสู้ไป ก็จะมีการเสียเลือดเนื้อ ซึ่งก็คือคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น โดยพระองค์ทรงเขียนถึงการตัดสินพระทัยในครั้งนั้นไว้ว่า ข้าพเจ้าไม่สามารถนั่งอยู่บนบัลลังค์เปื้อนเลือดได้ เป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ที่กำลังถูกถ่ายทอด และ หลั่งไหลออกมาให้ประชาชนคนไทยได้ร่วมกันรับรู้ และวิเคราะห์ไปพร้อมๆกันกับประวัติศาสตร์ที่เป็นรากเหง้าของพวกเราคนไทยทั้งสิ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณภาพและข้อมูล จาก FB Pat Hemasuk

ขอบคุณ แฟนข่าวบุญระดม