คนโกงต้องรับโทษหนัก!!!ไล่ออก“รองปลัดกทม.-3ข้าราชการ”คดีทุจริตซื้อรถดับเพลิงฉาว6.6พันล้าน สั่งริบเครื่องราชย์-เรียกเงินบำนาญคืนด้วย???

จากกรณีนางวรรณวิไล พรหมลักขโณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) พิจารณาโทษทางวินัย ผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ของกทม. ตามที่พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีหนังสือด่วน ที่ ปช.0015/487 ลงวันที่ 28 ก.พ.60 ถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

       “ ขอให้ดำเนินการพิจารณาโทษทางวินัยต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง จัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง อุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยราคาสูงเกินความเป็นจริงมีพฤติการณ์เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เสนอราคารายใดรายหนึ่งโดยให้ดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการกทม.ที่เกี่ยวข้อง 4 ราย คือ นายสุวิทย์ (ทรรน) ศิลาทอง, นางสาวสุทิพย์ ทิพย์สุวรรณ์, พ.ต.อ.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ และพ.ต.ท.รักศิลป์ รัตนวราหะ ในฐานะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษขณะนั้น ปัจจุบันเกษียณไปแล้ว 3 คน เหลือเพียง พ.ต.อ.พิชัย ที่ยังรับราชการอยู่ในตำแหน่ง รองปลัดกทม.”

       ทั้งนี้ป.ป.ช.กำหนดให้ดำเนินการทางวินัยให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่ที่ได้รับเรื่อง การพิจารณาโทษทางวินัยของกทม.ดำเนินการหลายขั้นตอนส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการวิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการ (อ.ก.ก.วินัย) พิจารณาซึ่งผลไม่เป็นเอกฉันท์ จึงต้องนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ก. ในวันนี้ ซึ่งผลการประชุมได้มีมติให้ไล่ออกข้าราชการทั้ง 4 รายด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ กรณีข้าราชการที่ถูกพิจารณาโทษไล่ออกนั้นตามระเบียบข้าราชการ จะงดจ่ายเงินบำนาญและต้องถูกเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์พ.ศ.2548

 

       ขณะที่นางวรรณวิไล เปิดเผยว่า จากนี้จะนำผลการพิจารณาส่งมอบให้พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.เป็นผู้พิจารณาและออกคำสั่ง ซึ่งเป็นอำนาจของผู้ว่าฯกทม.จึงจะถือว่าคำสั่งนั้นเป็นผล อย่างไรก็ตามแม้การพิจารณาจะล่าช้ากว่า ที่ป.ป.ช. กำหนดไว้ แต่ผู้ว่าฯกทม. ก็มีการประสานกับ ป.ป.ช.อย่างต่อเนื่องว่าการดำเนินการอยู่ในขั้นตอนอย่างไร เหตุใดจึงล่าช้า ทั้งนี้ความจริงแล้วตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีคำสั่งออกมาชัดเจนแล้วตั้งแต่ต้น รวมถึงคำสั่งของ ป.ป.ช.ตามหนังสือคำสั่งที่ได้แจ้งมายัง กทม.ก่อนหน้านี้ด้วย สำหรับผู้ที่ถูกพิจารณาทั้ง 4 รายนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วผลการพิจารณาจึงยืนตามป.ป.ช.