เหลือเชื่อสุดๆ!ลูกชายฝังใจพ่อตายประหลาดผ่านมา10ปีฉุกใจเจอญาติเกิดซ้ำ เชื่อหมอผีอมก๋อยทำคุณไสย ตัดสินใจจ้างมือปืนยิง(ก้น)ล้างเวทย์มนต์ให้ตาย?

สืบเนื่องจากกรณีมีผู้พบศพนายแสงมณี จรัสฟ้า อายุ 61 ปี หมอผีชาวกระเหรี่ยง หรือจอมขมังเวทย์ชื่อดังของอำเภออมก๋อย และเป็นลูกจ้างหน่วยพิทักษ์ป่ายางแก้ว ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนลูกซองที่บริเวณลำตัว หลัง สะโพก และรูทวาร นับรูกระสุนได้กว่า 15 รู นอนตายใกล้รถจยย. ฮอนด้า สีน้ำเงิน ทะเบียน กษค 797 ลำพูน โดยเหตุการณืดังกล่าวเกิดขึ้นที่ที่ริมถนนในป่าบริเวณหมู่บ้านยางครก หมู่ 7 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ 

 

ล่าสุด พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.อรรคเดช เตจ๊ะราษฏร์ รักษาราชการผกก.สภ.อมก๋อย พร้อมชุดสืบสวนสภ.อมก๋อย ได้จับกุมตัวผู้ก่อเหตุดังกล่าว ทราบชื่อ นายสมพร รัตน์เฉลิม อายุ 26 ปี นายอธิพันธ์ รัตน์เฉลิม อายุ 40 ปี และนางทังอยู่ รัตน์เฉลิม อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฮอด ที่ จ.27/2560 จ.27/1/2560 และจ.27/2/2560 ลงวันที่ 22 เม.ย.60 ในข้อหา”เป็นผู้ใช้ให้ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”

 

 

 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่า พวกตนเป็นเครือญาติกันในอดีตเมื่อ 10 กว่าปีก่อน บิดานายสมพร เคยถูกคุณไสย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา สร้างความแค้นให้กับนายสมพร และเครือญาติเป็นอย่างมาก พยายามสืบหาคนร้ายฆ่าบิดามานานนับสิบปีแต่ก็ไม่พบตัว และเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ สามีนางทังอยู่ ก็เกิดปวดท้องทุกวัน อุจจาระไม่ออก เหมือนโดนคุณไสยเหมือนกับบิดานายสมพร ซึ่งนายแสงมณี เป็นหมอผี หรือจอมขมังเวทย์ที่ชาวบ้านนับถือ ก็ขอค่าถอนของเป็นเงิน 100,000 บาท 

 

 

( ภาพเบื้องต้นไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในข่าว ใช้เพียงประกอบเท่านั้น)

 

 

ทั้งนี้ได้สร้างความโกรธแค้นให้กับครอบครัวผู้ต้องหาเป็นอย่างมาก จึงคาดว่า นายแสงมณี เป็นผู้ทำคุณไสย ใส่บิดาเสียชีวิตในอดีตที่ตามหามานาน จึงลงขันกันทั้งครอบครัวเป็นเงิน 3,000,000 บาท ว่าจ้างมือปืนชื่อดังจากเมืองอุดร มาลงมือสังหารในครั้งนี้ โดยตามความเชื่อของโบราณ คนที่เล่นของขลัง หากจะให้ของเสื่อมต้องยิงที่ก้น ของที่ทำเข้าคนอื่นก็จะหายไป จึงมีการไปดักยิง นายแสงมณี ก่อนที่จะเข้าไปทำงานที่หน่วยพิทักษ์ป่า ทั้งยิงก้นยิงตัว ให้ตาย ก่อนมือปืนจะหลบหนีไป ยังไม่มีการจ่ายเงิน เเต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ก่อน 

 

 

ขอบคุณที่มา : chiangmainews