"แม่หัวใจแกร่ง" สุโขทัย สามีทิ้งไม่เคยท้อ หอบลูกป่วยสารพัดโรค นั่งรถจยย.พ่วง "ขายข้าวเหนียวหมู" เก็บเงินรักษาหวังยื้อชีวิตแก้วตาดวงใจ (คลิป)

วันที่ 28 เม.ย. 60 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่บริเวณริมถนนหน้าจุดจอดรถ บ.ข.ส. 99 (ข้างร้านเซเว่นฯ) ตรงแยกปากทางเข้าที่ว่าการอำเภอคีรีมาศ จ.สุโขทัย มีแม่ค้าขายข้าวเหนียวหมูห่อรายหนึ่ง พาลูกน้อยวัย 3 ขวบ ซึ่งป่วยหลายโรครุมเร้า นั่งพ่วงรถจักรยานยนต์มาขายของด้วยกันทุกวัน ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ตี 4 จนถึง 9 โมงเช้า เป็นที่น่าชื่นชม น่ายกย่อง และน่าเห็นใจอย่างมาก

เมื่อไปตรวจสอบพบแม่ค้าคนดังกล่าว คือ นางสาวเอื้อย บดีรัฐ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154 หมู่ 10 ต.หนองจิก อ.คีรีมาศ กำลังยืนขายข้าวเหนียวหมู มีทั้งหมูฝอย หมูหวาน หมูเค็ม หมูกระเทียม และหมูกรอบ ห่อละ 10 บาท ให้กับลูกค้าที่มารอซื้อ โดยมีลูกชายคือ ด.ช.กิตติพัศ หรือ น้องออมสิน อายุ 3 ขวบ นอนหลับอยู่ในพ่วงรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างๆ

 

นางสาวเอื้อย เปิดเผยว่า ตนเองยืนขายข้าวเหนียวหมูห่ออยู่ตรงนี้มานาน 2 ปีแล้ว หลังจากถูกสามีทิ้งตั้งแต่ตอนตั้งท้องได้แค่ 1 เดือน ก็กลับมาอยู่ที่บ้านเกิดสุโขทัย โดยจะขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพร้อมกับลูกชายตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง มาตั้งโต๊ะขายของ กว่าจะขายหมดก็ประมาณ 8-9 โมงเช้า เสร็จแล้วก็เก็บร้านไปซื้อของที่ตลาดสด เพื่อเตรียมขายในวันต่อไป

 

โดยขี่รถไป-กลับวันละ 34 กิโลเมตร จากตลาดสดคีรีมาศมาถึงบ้านที่ ต.หนองจิก ประมาณ 10 โมงเช้า ก็ต้องเตรียมของขายอีก เสร็จก็ทำงานบ้านต่อ รวมทั้งป้อนข้าว อาบน้ำให้ลูก จนถึงช่วง 6 โมงเย็น ก็พากันรีบเข้านอนแต่หัววัน เพราะจะต้องตื่นตอน 5 ทุ่ม มาแช่ข้าวเหนียว แล้วกลับเข้ามุ้งนอนต่อได้ 1 ชั่วโมง พอถึงตี 1 ก็ต้องลุกมานึ่งข้าวเหนียวกับทอดหมูและห่อ เสร็จก็ขี่รถตระเวนส่งฝากขายตามร้านค้าต่างๆ ในหมู่บ้าน จากนั้นก็กลับมาที่บ้านรับลูก แล้วขนของออกไปตั้งร้านขายตอนตี 4 ครึ่ง เป็นวิถีชีวิตประจำวันตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

 

 

สามีทิ้งไปเพราะว่าฉันไม่ยอมเอาลูกออก ก็เลยต้องกลับมาอยู่บ้านเกิดที่สุโขทัย อาศัยปลูกเพิงเล็กๆ ในที่ดินของญาติ ช่วงแรกก็อาศัยข้าววัดกิน ช่วยวัดกวาดใบไม้ ล้างจาน ทำงานเล็กๆ น้อยๆ พระท่านก็เมตตาคอยให้เงิน เพื่อพาลูกที่ป่วยเป็นโรครูรั่วที่หัวใจห้องข้างล่าง เส้นเลือดไปปอดตีบ มีเส้นเลือดที่งอกออกมาจากเส้นเลือดแดงใหญ่ และน้ำเหลืองไม่ดีตั้งแต่เกิด ไปให้หมอที่กรุงเทพฯ ดูอาการตามกำหนดนัด”

 

นางสาวเอื้อย เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้เคยไปทำงานช่วยพี่สาวขายข้าวเหนียวหมูห่ออยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ก็เลยได้สูตรมา จึงนำเงินที่มีเก็บออมส่วนตัวกับเบี้ยคนพิการของลูกรวมได้ 20,000 กว่าบาท มาลงทุนทำขายที่หน้าจุดจอดรถ บ.ข.ส. คีรีมาศ พอได้กำไรวันละ 200-300 บาท หักทุนแล้วส่วนหนึ่งก็นำฝากธนาคารทุกวัน เพื่อเก็บไว้ซื้อที่ดินราคาถูกๆ สร้างบ้าน รวมทั้งเก็บไว้ใช้รักษาอาการป่วยของลูกชายด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ฝันถึงจะเป็นจริง แต่ก็จะสู้เก็บออมเพื่อลูกต่อไป

 

“ตั้งใจให้เขาเกิดมาแล้ว ก็อยากจะดูแลให้ดีที่สุด เคยท้อบ้างแต่ก็ต้องสู้ เวลาเหนื่อยๆ พอได้เห็นหน้าลูกเดินมาอ้อนแล้วหอมแก้มเรา ก็ทำให้มีกำลังใจ เรายอมแพ้ไม่ได้ ต้องสู้จนกว่าจะตายจากกัน” นางสาวเอื้อยกล่าวด้วยน้ำตาคลอ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบที่พักอาศัยของนางสาวเอื้อย พบว่าเป็นเพิงพักยกพื้นสูง 1 เมตร ขนาดกว้าง 3x5 เมตร ใช้แผ่นสังกะสีเก่าตีแปะเป็นฝาบ้าน พื้นไม้เก่าผุพังมีร่องห่าง แบ่งเป็นห้องนอนกับห้องครัวติดกัน สภาพคับแคบ และร้อนอบอ้าว