"บิ๊กตู่" สั่งด่วน !!! เช็กนักรบไอเอสติดอาวุธหนีเข้าไทย ยันไม่โยงชายแดนใต้ ไร้คนไทยเอี่ยว

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ถึงกรณีกระแสข่าวตำรวจมาเลเซียจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นกลุ่มไอเอสชาวมาเลเซีย และมี 1 คนหลบหนีเข้ามายังชายแดนภาคใต้ของไทย ว่า ฝ่ายความมั่นคงกำลังตรวจสอบอยู่ หากพบมีความเกี่ยวข้องก็ต้องประสานหารือในเรื่องการขอตัวต่อไป ทั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จึงไม่อยากให้เปิดเผยมากนัก เพราะจะเป็นการเปิดหน้าออกไปข้างนอกมากเกินไป จนส่งผลกระทบกระประเทศไทย

"ผมยืนยันว่า ไม่มีคนไทยเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ไม่มีหลักฐานในเรื่องนี้ แต่ความเชื่อมโยงกับประเทศอื่นๆ ก็เป็นอีกคนละเรื่อง เพราะไม่ได้มีแค่ประเทศไทย เรื่องความมั่นคงผมขอร้อง หลายเรื่องเราเปิดกันมามากแล้ว จนเขารู้หมดแล้วว่าเราจะทำอะไร มันอันตราย"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
          ด้านพล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (ผอ.รมน.ภาค4สน.) กล่าวถึงกรณีที่ประเทศมาเลเซียจับกุมผู้ต้องสงสัยไอเอสได้ 6 คน และอีก1คนหลบหนีเข้ามาภายประเทศไทยพร้อมอาวุธ ว่า ขณะนี้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลว่าข้อเท็จจริงว่ามีไอเอสหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยหรือไม่ ยอมรับว่าช่องทางธรรมชาติระหว่างพรมแดนไทย-มาเลเซียมีมาก ทั้งนี้ไม่อยากให้ตื่นตระหนก เพราะอาจเป็นข่าวลวงก็ได้ และเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอสแน่นอน อยากให้รอการตรวจสอบข้อมูลที่แน่ชัด
          “ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรง หรือไอเอส แน่นอน ขอให้ประชาชนในพื้นที่ได้สบายใจ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดบุคคลผ่านเข้าออกตามแนวชายแดน ทั้งในส่วนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ที่มีความเข้มงวดทั้งการคัดกรองคน มีเครื่องมือพิเศษมาช่วยเสริม รวมถึงช่องทางตามธรรมชาติ” พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าว

ด้านพ.อ.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า การเฝ้าระวังตามแนวชายแดน ทางหน่วยงานด้านความมั่นคงมีความเข้มงวดในการดูแลอย่างต่อเนื่อง จึงขอยืนยันว่ากลุ่มไอเอส ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เป็นไปตามแผนงานทุกอย่าง มีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งให้ความเชื่อมั่นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนกรณีที่การก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ต่างๆนั้น เป็นการสร้างกระแสของกลุ่มผู้ไม่หวังดีให้ประชาชนหลงเชื่อ ขอเตือนประชาชนใช้วิจารณญาณในการเสพข้อมูล และตรวจสอบความชัดเจนกับเจ้าหน้าที่ได้