- 05 พ.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/
จากกรณีที่นายชวลิต ศรีมั่นคงธรรม หรือดีเจเชาเชา ถูกกล่าวหาว่าขับรถชนท้ายรถจักรยานยนต์ของ นายจิรภาษ ธงอาษา จนนายจิรภาษได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อเช้ามืดวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมาบริเวณ ถนนตัดใหม่วัชรพล-สุขาภิบาล 5 มุ่งหน้าสะพานใหม่ จนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลภูมิพล นอกจากนี้ดีเจเชาเชาถูกกล่าวหาไม่ได้เข้าช่วยเหลือเยียวยาใดๆ จนล่าสุด มารดานายจิรภาษ ได้เข้าพบต่อพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อให้ช่วยติดตามความคืบหน้าคดี หลังนายจิรภาษเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดีเจเชาเชา หรือนายชวลิต ศรีมั่นคงธรรม ดีเจชื่อดัง ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สายไหม ในการให้ปากคำคดีเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จากนั้นดีเจเชาเชาได้เข้าพูดคุยกับนางสมควร ธงอาษา แม่ของผู้เสียชีวิต และกล่าวขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมรับปากในการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าตัวถูกแจ้ง 3 ข้อหาคือ ขับรถโดยประมาทให้ผู้อื่นเสียชีวิต, ขับขี่รถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และขับรถโดยไม่จัดทำ พ.ร.บ.ผู้ประสบภัยทางรถ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : นาทีเผชิญหน้า!! "ดีเจเชาเชา" อ้างตกใจเลยปฏิเสธชนโจ๋ดับ ก่อนเจอหน้าแม่คู่กรณีเป็นครั้งแรก มอบเงินค่าจัดงานศพแต่โดนเหน็บหน้าชา!?! (คลิก)
ล่าสุด "ดีเจเชาเชา" พร้อมทนายความ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจประเด็นที่เกิดขึ้น ณ ตึกจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ โดย ดีเจเชาเชา เปิดเผยว่า ตนขอโทษพี่นักข่าวทุกท่านที่เสียเวลามาทำข่าวทั้งสัปดาห์ที่การติดต่ออาจคลาดเคลื่อนไปบ้าง ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแน่นอน ทั้งตนและครอบครัวผู้ตายก็เช่นกัน คืนวันที่ 26 เม.ย. หลังจากจัดรายการเสร็จประมาณ 23.45 น. ก็เดินทางกลับบ้านปกติ จนมาถึงจุดเกิดเหตุใกล้กับทางเข้าหมู่บ้าน ตนกลับรถแล้วขับไปตามปกติ ระหว่างทางเห็นกลุ่มรถจักยานยนต์รวมตัวกันอยู่ด้านหน้าริมฟุตบาท จึงได้ขับรถไปด้วยความระมัดระวัง ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.
สักพักมีรถจักรยานยนต์แตกฮือกันเข้ามา โดยจักรยานยนต์ของผู้ตายขับมาจากทางด้านซ้ายตัดหน้ารถตนทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนทำอะไรไม่ถูก แต่สิ่งแรกที่เห็นคือเห็นคนเจ็บนอนอยู่เลยเปิดประตูลงไปดู หลังจากนั้นก็ขึ้นมาเอารถไปจอดด้านซ้ายแล้ววิ่งมาหาคนเจ็บ ประคองหัวน้องเขาไว้ที่บ่า บอกน้องอย่าเป็นอะไรนะเพราะเขาเหมือนจะหมดสติ ซึ่งตอนนั้นมีตนอยู่กับผู้เสียชีวิตเพียงสองคน เพื่อนคนอื่นไม่อยู่แล้ว
“ผมเลยโทรเจ้าหน้าที่กู้ภัย อปพร.สายไหม มาปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วผมก็เดินทางตามไปที่รพ. ผมห่วงคนเจ็บมากกว่าเรื่องอื่น ผมขับรถตามไปที่โรงพยาบาล เฝ้าตั้งแต่ทำแผล จนหมอบอกต้องเอ็กซเรย์สมอง และต้องดูอาการ 3-5 วัน ผมจะไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลตอนนั้นคุณหมอแจ้งว่ายังไม่ต้องจ่าย ผมนั่งเฝ้าน้องถึงเวลาประมาณ 04.00 น. ก่อนจะออกจากโรงพยาบาล เดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.สายไหม ถ้าผมคิดจะหนีคงไม่ลงไปดู ไม่พาไปโรงพยาบาล ไม่ไปสถานีตำรวจหรอก เหตุการณ์นี้มันเร็วมาก คุณเคยแบบขับรถอยู่ดีๆ มีหินขว้างใส่รถไหม อยู่ตรงนั้นจะเข้าใจความรู้สึกผม
ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะขับไปชนเขา เขาพุ่งเข้ามา สิ่งที่ผมเห็นสิ่งแรกคือคนเจ็บ นั่นคือความรู้สึกวันนั้น เชื่อว่าการคิดดีทำดีช่วยเหลือคนทำให้เราปลอดภัย เกิดขึ้นวันนั้นทำให้ทุกวันนี้หลอกหลอนอยู่ทุกวันที่ต้องคอยบอกคนอื่น ความรู้สึกผมคือผมขับรถมาเฉยๆ แต่มีรถพุ่งเขามาหาผมเอง วันนี้ผมจะเดินทางไปเป็นเจ้าภาพในงานศพของน้องและจะไม่ทอดทิ้งครอบครัวน้องอย่างแน่นอนและจะบวชให้น้องเป็นเวลา 15 วัน หลังจบคดี” ดีเจเชาเชา กล่าวทั้งน้ำตา.