- 05 พ.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ ได้ที่ http://www.tnews.co.th
จากกรณีนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดัง ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2560 ด้วยคะแนนเสียง 27 เสียง จากองค์ประชุมทั้งหมด 36 คน
จากนั้นนายเนติวิทย์ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ถึงกรณีประเพณีถวายบังคมพระบรมรูปทรงม้า บริเวณลานพระราชวังดุสิต เนื่องในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคมนี้ นายเนติวิทย์ กล่าวว่า "คุณต้องเปิดพื้นที่ให้คนที่ไม่อยากถวายบังคมแบบหมอบคลาน เปิดพื้นที่ให้เขายืนเคารพก็ได้ บางคณะยังบังคับกันอยู่ เราจะลงไปดูแล"
ดังนั้นถึงจะได้รับตำแหน่งประธานสภานิสิตจุฬาฯ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสาารถทำตามอำเภอใจได้ ประธาน สภานิสิตจุฬาฯ ไม่มีอำนาจบริหารกิจกรรมใดๆ
ซึ่งในเวลาต่อมา เฟสบุ๊ค Arnond Sakworawich ก็ได้โพสต์ ข้อความของ อ.เผ่า โดยระบุข้อความว่า ...
อ.เผ่า สุวรรณศักดิ์ศรี
อดีตอนุสาสกหอพักนิสิตจุฬา
ศิลปินแห่งชาติสาขาวิชาสถาปัตยกรรมไทย
ได้เขียนไว้ใน line ห้องจุฬาฯปฏิรูปพลังงานฯ
เกี่ยวกับ กรณี “เนเน่” ได้เป็นประธานสภานิสิตจุฬา ดังนี้
***ผมเพิ่งเปิดอ่านไลน์เมื่อสักครู่
เห็นเรื่องเนติวิทย์ในทุกห้องการเมืองจึงขอแสดงความเห็นบ้าง
1.การเป็นสมาชิกหรือประธานสภานิสิตจุฬาฯในปัจจุบันมันไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร การเลือกตั้งแต่ละครั้งจะหานิสิตลงสมัครแสนยากเย็นบางคณะแค่มีนิสิตสมัครให้ครบแล้วลงคะแนนรับรอง ผมรู้ดีเพราะเคยเป็นสมาชิกสภารุ่นแรกและเคยจัดการเลือกตั้งในคณะมาหลายปีสมัยที่เป็นรองคณบดีกิจการนิสิต แต่บทบาทองค์การก็มีความสำคัญคือคอยตรวจสอบการทำงานของ อ.บ.จ.
(อ.เผ่า สุวรรณศักดิ์ศรี)
2.การที่เนติวิทย์แสดงความคิดเห็นต่อต้านจารีตประเพณีต่างๆนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรง่ายๆเพราะกิจกรรมต่างๆกำหนดและดำเนินการโดย อ.บ.จ.ซึ่งได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากนิสิตจุฬาฯ
3.สิ่งที่เนติวิทย์พูดแสดงความคิดเห็นนั้นเกิดผลในทางจิตวิทยาโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบรรดานิสิตเก่าจุฬาฯบางคนเกลียดชังถึงกับด่าด้วยถ้อยคำรุนแรง ต้องเข้าใจว่าคนแบบเนติวิทย์มีอยู่ในจุฬาฯและสังคมไทยมาทุกยุคทุกสมัย เราอย่าไปให้ความสำคัญอะไรมาก วันข้างหน้าเมื่อจบไปแล้วยังไม่เปลี่ยนนิสัยสังคมก็สั่งสอนเขาเอง
4.จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยสถาปนามาถึง 100 ปีแล้วคนที่จบจากจุฬาฯมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่คนดีมีมากกว่าแน่นอนคนดีศรีจุฬาฯได้เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาบ้านเมืองมาจนถึงทุกวันนี้ ฉะนั้นทุกคนจึงต้องรักษาชื่อเสียงของบัณฑิตจุฬาฯให้เป็นคนที่มี "ความรู้คู่คุณธรรม" ตลอดไป***