โมเม้นท์อย่างนี้ก็มี!!"พล.ท.นันทเดช"ห่วงลูกหลานไทยจะกลายพันธุ์ย้อนเล่าชีวิตบรู๊คลินในวันที่พ่อ(เดวิด)คนดังสอนใช้ชีวิตจนต้องไปเป็นเด็กเสิร์ฟ?

ติดตามรายละเอียด http://www.tnews.co.th/

เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่หลายคนคงรู้จักและกรี๊ดกร๊าดไม่น้อยโดยเฉพาะสาวๆ สำหรับ "บรู๊คลิน เบ็คแฮม" ลูกชายคนโตของเดวิด และวิคตอเรีย เบ็คแฮม นักฟุตบอลและนักแสดงชื่อดัง โดยหนุ่มบรู๊คลินนั้นกำลังเป็นที่จับตามองทั้งด้านหน้าตารูปร่างหรือฐานะทางครอบครัว แต่เชื่อหรือไม่ว่าหนุ่มบรู๊คลินยังมีอีกด้านหนึ่งที่หลายๆ คนยังไม่ทราบ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวนี้ถือเป็นความน่าชื่นชมในการสอนลูกของเดวิด และวิคตอเรีย

ทั้งนี้ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ได้แชร์เรื่องราวของหนุ่มบรู๊คลิน เมื่อครั้งทำงานพาร์ทไทม์ในร้านกาแฟ เพื่อหาเงินมาซื้อสิ่งของที่เขาอยากได้ โดยเรื่องราวดังกล่าวนี้ เป็นอีกแง่มุมหนึ่งของการเลี้ยงดูลูกที่ต่างกันของคนไทยและคนต่างชาติ ซึ่ง พล.ท.นันทเดช ได้ระบุข้อความทั้งหมดว่า...

โมเม้นท์อย่างนี้ก็มี!!"พล.ท.นันทเดช"ห่วงลูกหลานไทยจะกลายพันธุ์ย้อนเล่าชีวิตบรู๊คลินในวันที่พ่อ(เดวิด)คนดังสอนใช้ชีวิตจนต้องไปเป็นเด็กเสิร์ฟ?

 

 

"เด็กคนนี้ ทำงานหาเงินในร้านกาแฟ ตอนปิดเทอม เพื่อนำไปซื้อของตามที่ตัวเองต้องการ 
ไม่ใช่เรื่องแปลกใช่ไหมครับ แต่บังเอิญที่เด็กคนนี้ 
ชื่อ บรู๊คลิน เบ็คแฮม ที่มีพ่อแม่รวยมหาศาล (เดวิด และ วิคตอเรีย เบ็คแฮม)
อยากให้คนไทยที่มีลูกมีหลานได้ดูไว้เป็นตัวอย่าง เลยเอามาโพสต์ซ้ำอีกครั้งหนึ่งครับ 
เพราะถ้าเราไม่สอนให้เขารู้จักความยากลำบากในการหาเงินแล้ว 
เราอาจจะได้เทวดาหรือซาตาน มาแทนลูกแทนหลานเมื่อเขาโตขึ้นครับ 
ตัวอย่างมีให้เห็นทั่วไปในสังคมเรา ทุกๆ วันนี้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องพ่อแม่เป็นคนรวย
นะครับ จนแล้วเลวเพื่ออยากเด่นดังปิดปมด้อยตัวเองก็มีนะครับ"

 

 

โมเม้นท์อย่างนี้ก็มี!!"พล.ท.นันทเดช"ห่วงลูกหลานไทยจะกลายพันธุ์ย้อนเล่าชีวิตบรู๊คลินในวันที่พ่อ(เดวิด)คนดังสอนใช้ชีวิตจนต้องไปเป็นเด็กเสิร์ฟ?

 

 

โดย เดวิด เบ็คแฮม ได้พูดถึงบรู๊คลิน ลูกชายของเขาผ่านรายการหนึ่งว่า ถึงแม้พวกเขาจะมีรายได้มากมาย แต่เพราะไม่อยากให้ลูกใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย เขาจึงบอกลูกว่า “หากลูกอยากได้อะไร ลูกก็ควรจะลองทำงานเพื่อเก็บเงิน และใช้จ่ายด้วยเงินของตัวเองดู” บรู๊คลินจึงไปทำงานพาร์ทไทม์เป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านกาแฟในกรุงลอนดอน ได้ค่าแรง 2.68 ปอนด์ หรือเทียบเป็นเงินไทยคือ 150 กว่าบาทต่อชั่วโมง (ในขณะที่ครอบครัวเบ็คแฮม มีมูลค่าทรัพย์สินประมาณการรวมแล้ว 165 ล้านปอนด์ หรือเทียบเป็นเงินไทยคือ 8,132 ล้านบาท) ซึ่งเขาก็สามารถทำงานได้ดี (ทำมา 2 ปี แล้ว) หลังจากเขาทำงานเก็บเงินได้สักพัก เขาก็เริ่มชวนน้องชายไปทำงานพิเศษกับเขาด้วย

 

 

โมเม้นท์อย่างนี้ก็มี!!"พล.ท.นันทเดช"ห่วงลูกหลานไทยจะกลายพันธุ์ย้อนเล่าชีวิตบรู๊คลินในวันที่พ่อ(เดวิด)คนดังสอนใช้ชีวิตจนต้องไปเป็นเด็กเสิร์ฟ?

 

 

“คุณก็น่าจะรู้นะว่าเด็กๆเขาอยากได้โน่น อยากได้นี่กันเยอะแยะ อย่างลูกของผมเนี่ย เขาอยากได้รองเท้าใหม่บ้าง อยากได้รองเท้าเตะบอลบ้าง และพอเขาอายุ 14 ผมและวิคเตอเรีย (Victoria Beckham) เราก็เลยเกิดแนวคิดที่ว่า หากลูกอยากได้อะไร ลูกก็ควรจะลองทำงานเพื่อเก็บเงิน และใช้จ่ายด้วยเงินของตัวเองดู .. ทุกวันนี้เขาก็ยังคงทำงานที่ร้านกาแฟนั้นนะ ผมไปส่งเขาทุกวันเสาร์ มีบ้างบางอาทิตย์ที่เขาไปทำงานทั้งเสาร์อาทิตย์ เรียกได้ว่าเขาเก็บเงินได้ดีทีเดียว และผมก็ได้ยินเขาเริ่มชักชวนน้องชายของเขาไปทำงานพิเศษกับเขาด้วย” เดวิดกล่าว

 

 

โมเม้นท์อย่างนี้ก็มี!!"พล.ท.นันทเดช"ห่วงลูกหลานไทยจะกลายพันธุ์ย้อนเล่าชีวิตบรู๊คลินในวันที่พ่อ(เดวิด)คนดังสอนใช้ชีวิตจนต้องไปเป็นเด็กเสิร์ฟ?

 

 

อย่างไรก็ตาม บรู๊คลิน ได้ทดลองทำงานมากมายหลายประเภท รวมถึงสตาร์บัคส์ (ร้านกาแฟชื่อดัง) ซึ่งเขาก็เป็นแค่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่อยากจะค้นหาว่าจริงๆแล้วเขาชอบอะไรและต้องการอะไรในชีวิต แน่นอนว่าเดวิดและวิคตอเรีย ภูมิใจในการตัดสินใจของลูกชายของทั้งคู่ เพราะพวกเขาอยากให้ลูกๆ ติดดินมากที่สุด และได้รับประสบการณ์การทำงานในหลายๆ ด้าน เพื่อที่จะเติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพในอนาคต.

 

 

 

 

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Nuntdach Makswat