ติดตามรายละเอียด http://www.tnews.co.th/

สวัสดีครับแฟนข่าวทีนิวส์ วันนี้วันที่ 11 พ.ค. 2560 ดูเหมือนว่าพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้จะเป็นแม่น้ำคนละสายกับกปปส. นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทุกเรื่องทุกราวดูจะสวนทางกันไปเสียหมด นับตั้งแต่เรื่องของการรับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายสุเทพและกปปส. ประกาศหนุนเซ็นสุข ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และบรรดาผู้คนใกล้ชิดอย่างองอาจ คล้ามไพบูลย์ และอีกหลายคนออกมาคัดค้าน

ทำให้ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์และกปปส.ดูจะเหินห่างออกจากกัน ไม่เพียงเท่านั้น บางส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็เร่งระดมโจมตีรัฐบาลและคสช.ว่าไร้ผลงาน เศรษฐกิจก็ไม่ต้องพูดถึง ปรองดองก็ทำไม่ได้ จนพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ต้องออกมาแถลงแจกแจงเรื่องราว แต่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องดีๆ จากพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีเอาเสียเลย

เมื่อนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค คนสำคัญที่มีแนวทางยืนเคียงข้างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และมีเส้นทางสวนกันกับคสช.ตลอดมา ได้ออกมากล่าวถึงร่างพรบ.พรรคการเมืองว่า แม้จะเป็นร่างฯ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก แต่ก็เป็นร่างกฎหมายที่มีจุดเด่นอย่างน้อย 10 ประการ อย่างแรก สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมกับพรรคอย่างกว้างขวางในการรับเลือกสมัครเลือกตั้งเป็นส.ส. และตำแหน่งทางการเมือง ร่วมถึงการแต่งตั้งบุคคลมาเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 88 ของรัฐธรรมนูญ อย่างที่สอง ห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคควบคุม ครอบงำ ชี้นำพรรค อย่างที่สาม ห้ามให้เงินเพื่อจูงใจสมาชิกสมัครเป็นสมาชิกพรรค อย่างที่สี่ ห้ามไม่ให้มีการเรียกเงินเพื่อแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีหรือตำแหน่งในการบริหารราชการ อย่างที่ห้า พรรคต้องฟังสาขาเวลาที่พิจารณาบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้ง

 

อย่างที่หก ผู้เสียภาษีนำเงินอุดหนุนพรรคที่ชอบได้เพิ่มขึ้นเป็น 500 บาท แต่เดิมอุดหนุนได้แค่ 100 บาท อย่างที่เจ็ด ผู้บริจาคเงินอุดหนุนให้พรรคสามารถนำไปหักเป็นส่วนลดหย่อนได้ อย่างที่แปด ห้ามส.ส.รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นๆ ใด โดยไม่มีมูลที่จะอ้างได้ตามกฎหมาย อย่างที่เก้า ในระหว่างอายุของผู้แทนราษฎรจะมีการรวบรวมพรรคการเมืองที่มีสมาชิกเป็นส.ส. ไม่ได้ และอย่างที่สิบ วิธีการบริหารเงินทรัพย์สินของพรรคต้องเปิดเผยเพื่อตรวจสอบได้อย่างสะดวก

 

ทั้งนี้ นายองอาจ กล่าวต่อว่า ฝากให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติร่างพรบ.พรรคการเมืองให้มีกลไกบังคับใช้ปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่กฎหมายที่มีเพียงให้สวยหรูดูดีเท่านั้น นับว่า เป็นข้อเสนอและความคิดเห็นที่สร้างสรรค์ที่สุดในช่วงระยะที่ผ่านมาของพรรคประชาธิปัตย์ ด้านกฎหมายพรรคการเมืองที่สนช.กำลังแปรญัตติในขณะนี้ สืบเนื่องจากร่างรัฐธรรมนูญที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่รับนั่นเอง ความจริงแล้วพรรคการเมืองที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากร่างรัฐธรรมนูญและร่างกฎหมายฉบับนี้ก็คือพรรคประชาธิปัตย์ ประโยชน์สูงสุดไม่ใช่ได้เพราะคสช.หรือคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเอื้อเฟื้อให้ แต่เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีรากฐานมาจากประชาชนมากกว่าพรรคอื่นใด

 

การออกมานำเสนอความคิดแบบนี้ถือเป็นความคิดที่สร้างสรรค์ และจะนำพาไปสู่การช่วยกันปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงการเมืองที่ผูกขาดโดยกลุ่มตระกูลเจ้าของพรรคบางกลุ่มบางพวก ให้พรรคการเมืองมาเป็นของประชาชนมากขึ้นซึ่งจะเป็นการปฏิรูปและพัฒนาในระยะยาว.

 

 

ขอบคุณ แฟนข่าวสนธิญาณ