ผลงานประทับใจ!! ขุนพลกำปั้นชุด กวาด 8ทอง "มวยไทยโลก" ลัดฟ้ากลับเเดนสยาม  เดินหน้าล่าความสำเร็จ "เวิลด์เกมส์" ต่อ (คลิป)

ทัพมวยไทยสมัครเล่นทีมชาติไทย ประสบความสำเร็จคว้า 8 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง


       ความเคลื่อนไหวทัพมวยไทยสมัครเล่นทีมชาติไทย หลังประสบความสำเร็จด้วยการคว้ามาได้ 8 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง จากการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก รายการ "อิฟม่า เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017" ช่วงวันที่ 6-13 พ.ค. ที่ผ่านมา ณ กรุงมินสก์ ประเทศเบลารุส ท่ามกลางนักชกฝีมือดีเป็นจำนวนมาก ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา นักกีฬาทั้งหมด 12 คน แยกเป็นมวยชาย 9 รุ่น และมวยหญิงอีก 3 รุ่น ภายใต้การนำทัพของ ผศ.สุรัตน์ เสียงหล่อ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย, ขจร พราวศรี ผู้จัดการทีมชาติ และ ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัคเล่นแห่งประเทศไทย ได้เดินทางกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบิน เอสยู 272 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากบรรดาญาติพี่น้องและแฟนคลับ

     ผศ.สุรัตน์ เปิดเผยว่า ขอชื่นชมนักชกทุกคนที่ทุ่มเทตั้งใจฟิตซ้อมจนประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย จากเดิมก่อนเดินทางไม่คิดว่า จะได้ถึง 8 เหรียญทองอย่างเก่งสัก 5-6 ทองก็พอใจแล้ว เพราะเวลานี้คู่ต่อสู้ในแถบยุโรปและเอเชียแถบบ้านเราเอง ทั้ง คาซัคสถาน, จีน, อิหร่าน หรือแม้แต่พวก รัสเซีย, ยูเครน, สวีเดน, ตุรกี, โปแลนด์ และ เบลารุส เจ้าภาพในครั้งนี้ที่คว้ารางวัลถ้วยคะแนนรวมไปได้พัฒนาไปไกลมาก หากเราไม่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นระบบชัดเจน หรือ ไม่มีการเตรียมความพร้อมที่ดีพอ รวมไปถึงแรงจูงใจต่างๆ และความประมาทคู่ต่อสู้ รับรองว่า ชื่อเสียงความสำเร็จที่เราเคยทำได้มาจะเหลือแค่ตำนานเท่านั้น เพราะเวลานี้ทุกชาติที่กล่าวมาในข้างต้นนั้น ทางรัฐบาลเขาให้การสนับสนุนอย่างจริงจังเต็มที่ มีการเก็บตัวฝึกซ้อมและแข่งขันกันตลอดทั้งปี โดยเฉพาะมวยใหญ่น้ำหนักเกิน 81 กก.ขึ้นไป เรากินต่างชาติเขายากแล้ว

 

 

     จากนี้ไปคงจะปล่อยให้นักมวยทั้งหมดได้พักผ่อนสักระยะหนึ่ง จากนั้นตัวเองจะเดินหน้าต่อด้วยการเรียก 4 นักชกที่คว้าตั๋วไปลุยศึก "เวิลด์เกมส์" ช่วงเดือนกรกฏาคมนี้ ที่ประเทศโปแลนด์ ประกอบด้วย หญิง รุ่นฟลายเวท 51 กก. "น้องแป้ง สส.ปกรณ์" อภัสรา โกศล แชมป์คนล่าสุด กับ มวยชาย รุ่นเฟเธอร์เวท 57 กก. "แสน ปิ่นสินชัย" วิวัฒน์ คำทา แชมป์ 3 สมัย, รุ่นเวลเตอร์เวท 67 กก. "มานะศักดิ์ ส.จ.เล็กเมืองนนท์" มานะ สัมชัยภูมิ และ รุ่นไลท์มิดเดิ้ลเวท 71 กก. "ซุปเปอร์บอล บัญชาเมฆ" ศุภชัย หมื่นสังข์ ดีกรีเหรียญทองสมัย 3 มาเก็บตัวฝึกซ้อมที่ค่ายของตัวเองในหมู่บ้านสัมมากร ถ.สุขาภิบาล 3 เพื่อต้องการแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ อภัสรา ที่เป็นนักมวยหญิงหน้าใหม่ขึ้นชั้นมาจากระดับเยาวชนอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น ตัวเองจะต้องเสริมในเรื่องของเทคนิคและประสบการณ์ต่างๆเข้าไปให้เต็มที่ เพราะในเมื่อรูปร่างเราเสียเปรียบจะต้องมีลูกฮึดและลุกอึด หรือ ความทนทานรวมไปถึงหัวจิตหัวใจต่อสู้ไม่ถดถอยมาเป็นจุดเด่นแทน เช่นเดียวกับนักชกชายอีก 3 คนตัวเองจะต้องเรียบมาติวเข้มทั้งจุดเด่นและจุดด้อย เพื่อต้องการความสำเร็จคว้าเหรียญทองในศึกเวิลด์เกมส์มาให้ได้
 

 

     ส่วน ดร.ศักดิ์ชาย ได้กล่าวว่า ภาพรวมทั้งหมดของการแข่งขันครั้งนี้ เป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง ไล่ตั้งแต่ในส่วนของการบริหารจัดการของ "อิฟม่า" ทั้งกรรมการผู้ตัดสิน, เจ้าหน้าที่ และ นักกีฬา เป็นด้วยความเรียบร้อยดี แม้ว่า บางกรณีจะมีปัญหาบ้างแต่ก็ไม่ได้บานปลายไปเท่าไหร่นัก ยิ่งในส่วนของคนดูนั้น ต้องยอมรับว่า ประชาชนชาวเบลารุสให้ความสนใจและชื่นชมมวยไทยมาก เห็นได้จากจำนวนผู้ชมในแต่ละวันเต็มไปหมด โดยเฉพาะในส่วนของออร์แกไนท์จัดการแข่งขันนั้นทำงานอย่างมืออาชีพ ตรงนี้ต้องชื่นชมทาง พลตรีคาราเยฟ ยูริ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นของเบลารุส ที่เอาใจใส่ทุกอย่างเป็นอย่างดี สร้างความประทับใจให้กลับทุกชาติกลับบ้าน ตลอดจนความสำเร็จของนักมวยไทยเองที่คว้าเหรียญรางวัลมาได้เป็นกอบเป็นกำ แสดงให้คนทั่วโลกให้เห็นแล้วว่า กีฬาชนิดนี้มันมีอัตลักษณ์และความเก่งกาจมากน้อยแค่ไหน จากนี้ไปสมาคมฯจะทำหนังสือสรุปรายงานไปยังผู้ใหญ่ของรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การสนับสนุนมวยไทยสู่กีฬาโอลิมปิกเกมส์ให้เป็นวาระแห่งชาติต่อไป
 

 

 

      สำหรับผลงานของนักมวยไทยสมัครเล่นชุดนี้ประกอบด้วย 8 เหรียญทอง ได้แก่ มวยชาย 6 คน  รุ่นไลท์ฟลายเวท 48 กก. "วิทยาเล็ก เพชรสี่หมื่น" ทิวากร ชอบทำกิจ, รุ่นฟลายเวท 51 กก. "นกกระจิบ ศิษย์พ่อแอ๊ด" อานนท์ พลกระโทก, รุ่นแบนตั้มเวท 54 กก. "สปรินท์เตอร์ แป๋งกองปราบ" โชติชนินทร์ โคกกระชาย, รุ่นเฟเธอร์เวท 57 กก. "แสน ปิ่นสินชัย" วิวัฒน์ คำทา, รุ่นไลท์เวท 60 กก. "ขวัญ ส.เพลินจิต" ประวิทย์ ชิลนาค, รุ่นไลท์มิดเดิ้ลเวท 71 กก. "ซุปเปอร์บอล บัญชาเมฆ" ศุภชัย หมื่นสังข์ และ มวยหญิง 2 คน คือ รุ่นฟลายเวท 48 กก. "โลมา ลูกบุญมี" สุภิสรา คนหลัก กับ รุ่นฟลายเวท 51 กก. "น้องแป้ง สส.ปกรณ์" อภัสรา โกศล