น่าทึ่ง!! อาชีพทำหัวโขน สร้างรายได้หลักล้าน จากฝีมือหลานภรรยาโจหลุยส์ ส่งขายต่างประเทศราคาเริ่มต้นที่ 5,000-35,000 บาทต่อหัว (มีคลิป)

วันนี้ 16 พ.ค. 60 น่าทึ่งอาชีพทำหัวโขนสร้างรายได้หลักล้านบาท จากฝีมือของคุณลุง วัย 62 ปี หลานภรรยาของโจหลุยส์ หรือ นาย สาคร ยังเขียวสด ศิลปินแห่งชาติ ปี 2539 นำวิชาที่ได้มาสร้างงานสร้างอาชีพการทำหัวโขน พร้อมด้วยการจ้างแรงงานจากชาวบ้านในตำบลบ้านอิฐ มาช่วยในการทำหัวโขน ศรีษะเทพเจ้า พระพรหม พระนารายณ์ พระอิศวร พระคเณศ ครูฤาษีพ่อแก่ พระราม พระลักษมณ์ ยักษ์ทศกัณฑ์ หนุมาน ซึ่งเป็นงานศิลปะชั้นสูงต้องอาศัยความประณีตละเอียดอ่อนในการประประดิษฐ์ขึ้นมาแต่ละชิ้น โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 5,000 บาท ถึง 35,000 บาท ต่อหัว ส่งขายทั้งในและต่างประเทศ เป็นการสืบสานศิลปะวัฒนธรรมไทย สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว

 

 

 

จากการสอบถาม นาย ประทีป รอดภัย อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า ตนเองเริ่มต้นจากการเข้าไปเล่นโขนตอนอายุ 14 ปี โดยตนเองเป็นหลานของภรรยาโจหลุยส์ ได้เข้ามาฝึกเล่นโขนเป็นตัวลิง พร้อมด้วยการเรียนรู้ขั้นตอนในการทำหัวโขน ซึ่งในตอนแรกนั้นการทำหัวโขนนิยมใช้ในการแสดงเท่านั้น จนกระทั่งเกิดความรู้ความชำนาญ ซึ่งต่อมาได้เป็นที่ยอมรับของคนในวงการ จึงได้ทำการสร้างหัวโขนออกมาจำหน่าย เพื่อซื้อเอาไว้ทำความเคารพบูชา และใช้ในการแสดงโขนที่เป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงที่มีมาแต่โบราณ รวมทั้งเป็นสินค้าที่ใช้ในตกแต่งเอาไว้ตั้งโชว์ในบ้านของผู้มีฐานะทางการเงิน จนได้รับความนิยมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จนมีการติดต่อสั่งซื้อกันเป็นจำนวนมาก

 

 

 

โดยวัสดุที่ใช้ทำหัวโขนแบบโบราณประกอบด้วยกระดาษที่บรรจุปูนซีเมนต์(ถุงปูน) แป้งข้าวเจ้า แคลเซียม กาวลาเท็กซ์ และปูนซีเมนต์เล็กน้อย พร้อมทั้งลงสีน้ำมันรวมทั้งเครื่องประดับเพชร และทอง นำมาประกอบเข้าด้วยกันด้วยความประณีตบรรจงทุกขั้นตอน โดยที่ผ่านมามีเศรษฐีต่างชาติชาวแคนนาดามาว่าจ้างให้ทำหัวยักษ์ทศกัณฑ์ จำนวน 30 หัว ที่ตกแต่งด้วยเครื่องประดับเพชรทอง ซึ่งมีราคาหัวละ 35,000 บาท เป็นการสร้างรายได้จากฝีมือของคนไทยที่เป็นศิลปะวัฒนธรรมของชาติไทย ที่ส่งออกจนชาวต่างชาติได้รับรู้ถึงฝีมือของคนไทย สำหรับราคาเริ่มต้นในการจำหน่ายหัวโขนจะเริ่มต้นที่ราคา 5,000 บาท โดยทุกคนสามารถนำไปเก็บไว้ในตู้ตั้งโชว์ได้อย่างสวยงาม
การหัวโขนเป็นศิลปะที่สืบทอดกันมานับแต่สมัยรัตนโกสินทร์ และมารุ่งเรืองมากในสมัยรัชกาลที่ 6 เนื่องจากทรงสนพระราชหฤทัย และทรงอุปถัมภ์ด้านการแสดง การสร้างหัวโขน ซึ่งแต่เดิมหัวโขนถือว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญให้กับนักแสดงใช้สวมใส่ในการแสดงโขน โดยเฉพาะเรื่องรามเกียรติ์ และเป็นที่เคารพนับถือเปรียบเสมือนครูบาอาจารย์ของเหล่าบรรดานาฏศิลป์ทั้งหลายต้องมีการเซ่นสรวงบูชาอย่างเหมาะสม การสร้างหัวโขนนอกจากเพื่อใช้สวมใส่ในการแสดงโขนแล้ว ยังเป็นการเผยแพร่สืบทอดวัฒนธรรมของคนไทยแต่ดั้งเดิมมิให้สูญหายไปจากสังคมไทยที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาอย่างรวดเร็ว ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านอิฐ พร้อมให้การสนับสนุนให้ชาวบ้านในชุมชนได้เรียนรู้วิชาการทำหัวโขนจาก นาย ประทีป เพื่อนำไปประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัว และสืบสานศิลปะวัฒนธรรมที่ดีงามของคนไทยให้คงอยู่ต่อไป

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว  กนกศักดิ์  แสงตระการ  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.อ่างทอง