- 16 พ.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วิสาหกิจชุมชนเพื่อเกษตรกรไทยสุรินทร์ เร่งส่งเสริมการปลูกไผ่ ลงทุนต่ำ ทนทุกสภาวะอากาศ เก็บผล 7-8 ปีได้ผลดีไร่ละ30-35ตันๆ ราคาสูง คาดเป็นพืชเศรษฐกิจพลังงานทดแทนทางเลือกใหม่สนใจติดต่อเข้าร่วมโครงการฯ
วันนี้(16 พ.ค.60) นายณัฐวุฒิ แสวงสิทธิ์ ประธานวิสาหกิจชุมชนกองทุนสวัสดิการเพื่อเกษตรกรไทยสุรินทร์ เปิดเผยถึงการปลูกไผ่ คาดจะเป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือกใหม่และเป็นพลังงานทดแทน ว่า เกษตรกรท่านใดที่ปลูกพืชได้ผลผลิตไม่เต็มที่มีปัญหาอุปสรรคต่างๆ อยากปรับเปลี่ยนการปลูกพืชแนวใหม่ ขอแนะนำการปลูกไผ่ ซึ่งได้ผลผลิตดีคุ้มค่ากับการลงทุน ราคาสูง มีระยะการเก็บผลผลิตนานหลายปี ที่สำคัญไม่ทำลายต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบัน ไผ่จะเป็นพลังงานทดแทนที่สามารถแปรเปลี่ยนรูปเป็นชีวมวลไฟฟ้า อย่างเช่น ถ่าน ที่เผาด้วยความร้อนถึง1,000 องศา นอกจากนี้ยังแยกไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย อาทิเวชภัณฑ์เครื่องสำองค์,ยา,บำบัดน้ำเสีย,ระบบกรองน้ำ นอกจากนี้ยังนำมาแปรรูปอื่นได้อีก เช่น หน่อไผ่นำเป็นอาหาร มาจำหน่าย ต้นไผ่อ่อนเป็นอาหารของสัตว์,ลำต้นผลิตเป็นเครื่องนุ่งห่ม,เชื้อเพลิง,เครื่องจักรสาน,บ้านไม้ไผ่,ผงปรับสภาพดิน,กระดาษและอีกมากมายซึ่งเป็นเรื่องใหม่ของเกษตรกรที่ต้องเร่งให้ความรู้เพิ่มมากขึ้น
นายณัฐวุฒิ ประธานวิสาหกิจชุมชนกองทุนสวัสดิการเพื่อเกษตรกรไทย สาขาสุรินทร์ กล่าวถึงต้นทุนและขั้นตอนการปลูก ว่า พันธุ์ไผ่กิมซุง ราคาต้นละ100บาท(ไร่ละ130ต้น) ค่าเตรียมดิน ไถดิน ค่าปุ๋ยอินทรีย์กันหลุมไร่ละ 10กระสอบ ระยะห่างต้น2เมตร ระหว่างแถว 6 เมตรใช้เงินประมาณหมื่นบาท การปลูกไผ่ ใช้เวลา8เดือนถึงจะเริ่มออกหน่อเก็บผลผลิตได้(หน้าแล้งราคาจะสูง) จากนั้น 2 ปีจึงจะตัดนำมาใช้ประโยชน์ได้ ในส่วนของราคาและรายได้หากท่านเข้าร่วมเป็นสมาชิกของโครงการฯจะรับประกันราคาลำไผ่(ลำ, กิ่ง, แขนง)ในราคา600บาท และจะสูงขึ้นตามท้องตลาด ผลผลิตอยู่ที่ไร่ละ 30-38 ตัน หากเกษตรกรสนใจสามารถติดต่อเข้าร่วมโครงการได้ที่วิสาหกิจชุมชนกองทุนสวัสดิการเพื่อเกษตรกรไทย สาขาสุรินทร์เลขที่208/11 หมู่ที่7 ตำบลสลักได อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ หรือโทร.085-7713445 และ095-6136545
ภาพ/ข่าว รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุรินทร์