ต้องมีกปช. !?!? มหันตภัยไซเบอร์ ไวรัสเรียกค่าไถ่คุกคามหนัก สปท. ปิ๊งไอเดียชงปลุก ม.44 ตั้งกฎหมายไซเบอร์สร้างความปลอดภัย (มีคลิป)

รายการทีนิวส์สด ลึก จริง วันนี้(16 พ.ค.60)นำเสนอประเด็น สปท. ปิ๊งไอเดียชงปลุก ม.44 ตั้งกฎหมายไซเบอร์สร้างความปลอดภัย


       เมื่อวันจันทร์ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีมัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่มีชื่อว่า วันนาคราย (WannaCry) ได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยมีคอมพิวเตอร์ถูกโจมตีด้วยหนอนคอมพิวเตอร์ดังกล่าวแล้วกว่า 200,000 เครื่องใน 150 ประเทศนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้ชี้แจงและมีมาตรการมาให้ทราบแล้ว ซึ่งตนเองและหน่วยงานความมั่นคงก็ได้รับมาเพื่อไปดำเนินการตามมาตรการต่างๆ และได้สั่งการให้ระมัดระวังและปฏิบัติตามมาตรการตามที่ได้มีการแจ้งมา
  และจากเหตุการดังกล่าวทำให้มีข่าวลืออกมาว่ารัฐบาลนั้นต้องการที่จะปล่อยข่าวสร้างความวุ่นวาย  ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  ก็แสดงความเห็นเรื่องนี้ว่า "หลายคนให้ความบิดเบือนว่ารัฐบาลเป็นคนแจ้งข่าวให้เกิดตกใจ เพื่อที่จะจ้างบริษัทมาทำระบบ ไปกันใหญ่ เลอะเทอะ ไอ้พวกนี้" 


    และยังกล่าวถึงว่า มีการรายงานมาว่ามีบริษัทใหญ่ 2-3 รายโดนไวรัสเล่นงาน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังแก้ไขอยู่ ส่วนของราชการนั้นยังไม่มีรายงานเข้ามา ซึ่งถือว่ายังไม่มีหน่วยงานใดถูกเล่นงานจากไวรัสดังกล่าว สิ่งสำคัญเราต้องระมัดระวัง ถึงได้บอกว่าการเรียกร้องให้เปิดเสรีทุกอย่างในวันนี้จะเป็นอันตรายในวันข้างหน้า เราต้องดูแลควบคุมให้ได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าปิดหูปิดตาประชาชน ไม่เคยคิดเช่นนั้น ไม่เช่นนั้นจะปล่อยให้พูดจากันอย่างเปิดเผยโดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย ไม่เคยไปห้ามอะไร เว้นแต่ถ้าผิดก็ว่ากันไปตามขั้นตอน แต่ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ไม่เคยปิดกั้นอะไรใครตรงไหน ขอร้องอย่าเอาเรื่องนี้ไปปนเรื่องนั้น


    วันเดียวกัน ที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้มีการประชุมพิจารณาเรื่องผลการศึกษาและข้อสังเกตร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ…. ที่นำเสนอโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านสื่อสารมวลชน สปท. โดย พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร ในฐานะประธาน กมธ.ด้านสื่อสารมวลชนระบุว่า ปัจจุบันไทยยังไม่มีหน่วยงานทำการปกป้อง ป้องกัน แก้ไขรับมือกับภัยไซเบอร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ จึงต้องมีหน่วยงานกลางมากำหนดยุทธศาสตร์ มาตรการ แนวทางดำเนินการ  
ซึ่งด้าน พล.ต.ต.พิสิษฐ์ ได้กล่าวว่า สำนักงานนี้เป็นหน่วยราชการระดับกรมขึ้นตรงต่อนายกฯ เพื่อให้การขับเคลื่อนสั่งการเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ในอนาคต นอกจากนี้ยังให้อำนาจเข้าถึงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สำหรับบทกำหนดโทษเมื่อมีการโจมตี หากหัวหน้าส่วนราชการหรือส่วนเอกชนไม่ได้ดำเนินการตามมาตรการปกป้องที่ได้กำหนดไว้จะมีโทษทางอาญา ในภาคราชการจะผิดวินัยและต้องโทษตามกฎหมายอาญาด้วย เหตุที่เราต้องนำเสนออย่างนี้เพื่อให้ทันกับภัยคุกคาม ขอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาโดยเร็วเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายโดยเร็ว


        “เมื่อกฎหมายยังไม่มีผลบังคับใช้ควรจัดตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาทำหน้าที่ชั่วคราวก่อน โดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตั้ง กปช.ขึ้นมาทำหน้าที่ก่อน เมื่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ประกาศใช้ให้โอนกิจการทั้งปวงของ กปช.ที่ตั้งขึ้นไปเป็นของ กปช.ชุดใหม่ เสมือนเป็นการทำงานของ กปช.เพื่อยับยั้งโต้ตอบได้ทันที” พล.ต.ต.พิสิษฐ์กล่าว

ต้องมีกปช. !?!? มหันตภัยไซเบอร์ ไวรัสเรียกค่าไถ่คุกคามหนัก สปท. ปิ๊งไอเดียชงปลุก ม.44 ตั้งกฎหมายไซเบอร์สร้างความปลอดภัย (มีคลิป)

ต้องมีกปช. !?!? มหันตภัยไซเบอร์ ไวรัสเรียกค่าไถ่คุกคามหนัก สปท. ปิ๊งไอเดียชงปลุก ม.44 ตั้งกฎหมายไซเบอร์สร้างความปลอดภัย (มีคลิป)

ต้องมีกปช. !?!? มหันตภัยไซเบอร์ ไวรัสเรียกค่าไถ่คุกคามหนัก สปท. ปิ๊งไอเดียชงปลุก ม.44 ตั้งกฎหมายไซเบอร์สร้างความปลอดภัย (มีคลิป)

ต้องมีกปช. !?!? มหันตภัยไซเบอร์ ไวรัสเรียกค่าไถ่คุกคามหนัก สปท. ปิ๊งไอเดียชงปลุก ม.44 ตั้งกฎหมายไซเบอร์สร้างความปลอดภัย (มีคลิป)