- 19 พ.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/
กลายเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียโดยวิธีการสกปรกที่สุด สำหรับการใช้วิธีการใส่ร้ายป้ายสีกลุ่มประชาชนผู้รับสถาบันเบื้องสูง โดยการใช้โซเชียลบิดเบือนข้อมูลให้เกิดการเข้าใจผิด
โดยกรณีเกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้รับการประสานงานจาก น.ส.สมสุข สุคมธมาลี อายุ 52 ปี ประกอบอาชีพส่วนตัว พร้อมผู้เสียหายกว่า 10 คน ในการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.หญิง วลัญชรัฎคำแก่น รองสว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ปลอมเฟซบุ๊กเข้าไปแสดงความคิดเห็นจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ในเพจเฟซบุ๊กมิติใหม่การเมือง จนทำให้ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก พร้อมนำเอกสารหลักฐาน การโพสต์ข้อความดังกล่าวมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ในข้อหาหมิ่นประมาท และหมิ่นเบื้องสูง
ทั้งนี้ น.ส.สมสุข ระบุว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา กลุ่มของตนและพวกได้ถูกกลุ่มบุคคลไม่ทราบว่าเป็นใคร ฝ่ายใด นำรูปไปโพสต์แสดงความคิดเห็นจาบจ้วงสถาบัน หรือบางครั้งก็นำรูปขณะทำจิตอาสาในงานอาสาต่างๆไปโพสต์ในเพจเฟซบุ๊กมิติใหม่การเมือง โดยระบุข้อความเชิงว่าทำจิตอาสาเพื่อหวังผลประโยชน์เรี่ยไรเงิน ทำให้ตนเสื่อเสียชื่อเสียง และเมื่อตนแจ้งไปทางเฟซบุ๊กก็ไม่สามารถปิดเฟซบุ๊กปลอมได้ เพราะเฟซบุ๊กปลอมดังกล่าวมีรหัสบัตรประชาชน 13 หลัก ซี่งตนก็ไม่ทราบว่านำมาจากไหน
อีกทั้งยังมีการชี้จุดพิกัดบ้านของพวกตน บางครั้งหนักเข้ามีการนำรูปลูกสาวมาขู่เชิญชวนให้คนในเพจไปทำร้ายร่างกายซึ่งถือเป็นการกระทำที่คุกคามถึงชีวิต ตนจึงรวมตัวผู้เสียหายกว่า 20 คน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปลอมเฟซบุ๊ก เพรารู้สึกไม่ปลอดภัยกับการดำเนินชีวิตโดยบุคคลที่แฝงตัวในโลกโซเชียล
"จากการตรวจสอบพบว่าเพจเฟซบุ๊กมิติใหม่การเมือง ได้เปิดเป็นเพจสาธารณะ ที่มีการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และมีเนื้อหาในเชิงคุกคาม จาบจ้วง สถาบันเบื้องสูง ซึ่งพวกตนยืนยันว่าไม่เคยมีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวเลย ตรงข้ามทุกคนมีความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูงมาโดยตลอด และมีการรวมตัวไปทำจิตอาสาโดยตลอดในช่วงพิธี 100 ของถวายสักการะพระบรมศพ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะกระทำการที่ผิดไปจากความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันเบื้องสูง"