- 20 พ.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
จากกรณีนายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในปลายปี 2560 ว่า จากการพูดคุยกับเพื่อนสมาชิก ที่เป็นอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์แล้วยังคงให้การสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป
ล่าสุดนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยังออกมากล่าวอีกว่า มีบางคนพยายามชี้นำให้เลือกทหารเป็นนายกรัฐมนตรีทั้งที่การเลือกตั้งจะมีหรือไม่ ก็ยังไม่รู้ โดยมีการอ้างว่ามีเสียงส.ว. แล้ว 250 เสียง ต้องการเสียงส.ส.อีกเพียง 126 เสียงก็เป็นรัฐบาลแล้ว ซึ่งกติกาแบบนี้ มีที่เดียวในจักรวาล และย่อมไม่ยั่งยืนเพราะฝ่าฝืนกฎแห่งความยุติธรรม คนที่อยากเป็นรัฐมนตรีก็เกิดความอยากถึงอยากมาก ละเมอเพ้อฝัน มองข้ามหัวหัวหน้าพรรค ทั้งที่เป็นเพียงเสียงเคาะกะลาที่แว่วมาเท่านั้น พรรคต้องยืนหยัดอยู่กับอุดมการณ์ของพรรค ที่ไม่สนับสนุนเผด็จการทุกรูปแบบ ใครอยากหนุนทหารเป็นนายกก็เชิญตามอัธยาศัย ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินจะยุติธรรมที่สุด
ทั้งนี้นายวัชระ กล่าวอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์จะได้ส.ส.มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน แต่ส.ส.ของพรรคต้องทำตามอุดมการณ์ของพรรค จะสวนมติพรรคไม่ได้ ตามรัฐธรรมนูญใหม่แต่ละพรรคเสนอบุคคลเป็นนายกฯได้ถึง 3 ชื่อ ตนจะเสนอต่อพรรคให้เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีไปนำเสนอตามคำเรียกร้องของชาวบ้าน
“ส่วนที่บางคนไปยกเปรมโมเดลมาอ้างจะให้พรรคการเมืองพร้อมใจกันสนับสนุนให้บางคนมาเป็นนายกฯ เป็นเรื่องฝิดฝาผิดตัว เพราะพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษและประธานองคมนตรี มีบารมีและคุณธรรม เป็นที่ยอมรับของทุกพรรค ที่สำคัญไม่เคยดูถูกเหยียดหยามนักการเมืองแม้แต่คำเดียว จะหาทหารที่มีคุณธรรมสูงอย่างท่านหายาก ทีมงานรัฐมนตรีของป๋าเปรมก็ไม่มีเรื่องทุจริตแต่ยุคนี้เป็นอย่างไร ไปถามพ่อค้าแม่ค้าดูได้ทุกตลาดว่าเป็นอย่างไร” นายวัชระ กล่าว
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) กล่าวว่า ขอสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ดำรงตำแหน่งนายกฯต่อไป ในช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศ 4-5 ปี เพราะต้องยอมรับว่า ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีผลกระทบโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่เรียกว่าการปฏิรูป หากผู้ที่มีส่วนได้เสียเป็นคนทำจะเป็นปัญหาอย่างมาก แต่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่นักการเมืองไม่มีผลประโยชน์ได้เสียอีกทั้งยังเป็นนายทหารมือสะอาดกล้าตัดสินใจ จึงเป็นผู้ที่มีความเหมาะสม ทั้งนี้ตนยังไม่เห็นคนนอกอื่นๆ ที่เหมาะสม ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะพร้อมรับภาระนี้ต่อไปหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องทำ เพราะลงมือมาถึงขนาดนี้แล้ว ภารกิจยังไม่จบสิ้น ต้องทำต่อเพื่อประเทศชาติ