ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

จากกรณีที่ นาย กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก โดยระบุว่า “ผมอยู่ในเมืองคนเลวที่สุด 3 จำพวก ไม่เลวจริง วางระเบิดในโรงพยาบาลไม่ได้ ไม่เลวจริง ฆ่าคนตายเป็นร้อยไม่ได้ ไม่เลวจริง ยิงหัวคนตายในวัดไม่ได้” นั้น

ทางด้านของ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวผ่านทางรายการ สด ลึก จริง ออกอากาศทางช่อง ไบร์ท ทีวี หมายเลข 20 ว่า เห็นด้วยกับนายกิตติรัตน์ ทั้ง 3 ประเด็น แต่ขอเสริมนายกิตติรัตน์ อีก 2 ประเด็น คือ ไม่เลวจริง ไม่ร่วมงานกับคนเลว และ ไม่เลวจริง ไม่ร่วมกันทุจริตหรือเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำข้าว เนื่องจากตอนนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) กำลังดำเนินคดีกับ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ซึ่งไม่ทราบว่า นายกิตติรัตน์เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่
 

“เผอิญตอนนี้ปปช.กำลังดำเนินการกับสยามอินดิก้าอยู่ ไม่รู้ว่า มีชื่อคุณกิตติรัตน์ เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่หรือเปล่า เพราะสยามอินดิก้า ปปช.กำลังดำเนินการ เนื่องจากว่า ปรับปรุงข้าวเพื่อส่งมอบให้กับอินโดนีเซีย โยงใยไปการทุจริตคอร์รัปชั่น ที่เกิดขึ้นในโครงการจีทูจี”

ทั้งนี้ ป.ป.ช. ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมารับผิดชอบคดีการระบายข้าวจำนวน 3 แสนตัน ให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ปรับปรุงข้าวเพื่อส่งมอบให้แก่ประเทศ อินโดนีเซีย (BULOG) โดยปรากฎรายชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นผู้ถูกกล่าวหา และทางเว็บไซต์ของป.ป.ช. ก็ได้เผยแพร่ความคืบหน้าการไต่สวนคดีนี้เป็นทางการ ระบุว่า ผ่านขั้นตอนการแจ้งคำสั่งคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีนี้ ให้ผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วยนายกิตติรัตน์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ เจ้าหน้าที่กรมการค้าต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ใช้สิทธิ์คัดค้านรายชื่อคณะอนุฯ ไต่สวนแล้ว
 

สำหรับข้อกล่าวหาที่แจ้ง เป็นประเด็นการทุจริตเปิดประมูลให้เอกชนดำเนินการปรับปรุงข้าวเพื่อส่งมอบให้แก่ประเทศอินโดนีเซีย (BULOG) ตามสัญญา การซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) จำนวน 300,000 ตัน เมื่อเดือน ธ.ค. 2554
โดยเอื้อประโยชน์ให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล ทั้งที่ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงในลักษณะนอมินีของ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ของนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร ที่ถูกศาลล้มละลายพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ตามคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ ล.18747/2552 รวมทั้งเคยเป็นคู่สัญญาการค้าขายข้าวกับรัฐบาลในโครงการ รับจำนำข้าวเปลือกปี 2544/2545 และปี 2546/2547 จำนวน 1.9 ล้านตัน และไม่สามารถส่งมอบข้าวได้ตามสัญญา

 

"ผลประโยชน์ที่รัฐควรได้จึงตกไปเป็นของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด กับพวกพ้องที่เป็นนักการเมือง ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ เอื้อประโยชน์แก่กันและกันต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน" ป.ป.ช.ระบุในข้อกล่าวหา