ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

ซาบซึ้งในพระเมตตา !! สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจและทรงเยี่ยมราษฎร ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช!!

         เมื่อวานนี้ (26 พ.ค.2560) เวลา 10.34 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยตง หมู่ 7 ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โดยกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญชาของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลได้มีที่เรียนและมีโอกาสทางการศึกษา ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานเงิน เพื่อจัดสร้างโรงอาหาร, บ้านพักครู, ห้องพยาบาล ตลอดจนอุปกรณ์ประจำห้องเด็กเล็ก เปิดทำการเรียนการสอนเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ปัจจุบันมีนักเรียนในระดับชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 173 คน, มีครูตำรวจตระเวนชายแดน หรือ ครู ตชด. 7 นาย, ครูผู้ดูแลเด็กและครูอาสา รวม 4 คน โรงเรียนฯ ยังประสบปัญหาเรื่องดินสไลดในช่วงฝนตกชุก ซึ่งได้ประสานกรมชลประทานเพื่อให้ช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น และในปีนี้ศูนย์การเรียนฯ จะได้จัดสร้างอาคารเรียนเพิ่มเติม 2 หลัง และอาคารโรงอาหารเพื่อรองรับนักเรียนที่เพิ่มขึ้น

         ทางศูนย์การเรียนฯ ได้ดำเนินโครงการตามพระราชดำริ เพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ครบทั้ง 8 โครงการ อาทิ โครงการฝึกอาชีพ ได้ให้ความรู้และฝึกทักษะการทำไม้กวาดดอกหญ้าแก่นักเรียน เพื่อให้มีความรู้และพื้นฐานในการประกอบอาชีพเสริม โครงการสหกรณ์ ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ด้านการทำบัญชีรายรับ รายจ่าย ความรู้เกี่ยวกับการออม และการทำร้านค้าสหกรณ์ เป็นต้น

         และโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีการเลี้ยงไก่ไข่ ไก่เนื้อ หมูหลุม เลี้ยงปลาในกระชัง ปลาดุกในบ่อซีเมนต์ ซึ่งผู้ปกครองนักเรียน ได้บริจาคพื้นที่เพิ่มเติมในการเลี้ยงสัตว์แก่โรงเรียน โดยผลผลิตที่ได้มีเพียงพอต่อการประกอบอาหารกลางวันเลี้ยงนักเรียน นอกจากนี้ มีการปลูกพืชผักปลอดสารพิษ ผลผลิตเพียงพอ และมีเหลือจำหน่ายแก่ชุมชน

        โอกาสนี้ ทรงเปิดห้องสมุดศูนย์การเรียนฯ ซึ่งจัดสร้างขึ้นใหม่เนื่องจากห้องสมุดเดิม ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมเฉียบพลันเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, มูลนิธิวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และบริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด และมีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หรือ กศน. จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปช่วยดำเนินการจัดระบบห้องสมุด และการยืม-คืนหนังสือ

ซาบซึ้งในพระเมตตา !! สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจและทรงเยี่ยมราษฎร ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช!!

          โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ไปตรวจรักษาประชาชนที่เจ็บป่วย และทรงเยี่ยมราษฎรที่ไปเฝ้าทูลละอองพระบาท ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำสวนทุเรียน รายได้เฉลี่ยครอบครัวละ 2 ถึง 3 แสนบาทต่อปี

          เวลา 14.08 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเขาวัง ตั้งอยู่ หมู่12 ตำบลหินตก อำเภอร่อนพิบูลย์ โรงเรียนนี้เปิดสอนในระดับชั้นอนุบาล ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียน 67 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม มีครู ตชด. 7 นาย และผู้ดูแลเด็ก 1 คน ซึ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อาคารเรียนของโรงเรียนฯ ได้รับความเสียหายบางส่วน จากเหตุอุทกภัยและดินถล่ม ได้รับความช่วยเหลือจากวิทยาลัยการอาชีพนครศรีธรรมราชและชมรมอาสาพัฒนาช่างกลปทุมวัน เข้าไปซ่อมแซมอาคารให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ โดยได้รับการสนับสนุบงบประมาณจากภาคเอกชน

          ในปีที่ผ่านมา โรงเรียนได้ดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารอย่างต่อเนื่อง อาทิ ด้านการเสริมสร้างศักยภาพในการเรียนรู้ทางวิชาการ นักเรียนทุกคนสามารถอ่านออกและเขียนภาษาไทยได้ดี ผลการสอบ NT และ O - NET ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ ปีที่ 6 อยู่ในระดับดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับโรงเรียน ตชด. ทั่วประเทศ ปัจจุบัน มีนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ จำนวน 7 คน

          ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับความร่วมมือจากสำนักวิชาเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าไปให้ความรู้และร่วมวิจัยพัฒนาพืชเศรษฐกิจที่พบมากในพื้นที่ร่วมกับคนในชุมชน อาทิ "ต้นกระวาน" ไม้ล้มลุกมีเหง้า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบฤทธิ์ในการกันยุง-ไล่ยุง เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับชาวบ้านและผู้นำชุมชนต่อไป โดยชุมชนบ้านเขาวัง ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าต้นน้ำ ชาวบ้านได้ช่วยกันดูแลเพื่อให้ชุมชนอื่นๆ ได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำอย่างเท่าเทียมกัน ด้วยการน้อมนำแนวพระราชดำริด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปปรับใช้ จนได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียวครั้งที่ 17 เมื่อปี 2559 จากสถาบันลูกโลกสีเขียว

          ด้านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีการเลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงปลา และปลูกพืชผักสวนครัว ซึ่งผลผลิตที่ได้ นำไปประกอบเป็นอาหารเลี้ยงเด็กนักเรียน ปัจจุบันผลผลิตส่วนใหญ่เพียงพอต่อความต้องการ ยกเว้นเนื้อสัตว์และถั่วเมล็ดแห้ง แก้ไขโดยให้นักเรียนรับประทานไข่เพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ และซื้อถั่วเมล็ดแห้งจากชุมชน

         โอกาสนี้ สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายข้าวสาร จำนวน 5,000 กิโลกรัม เพื่อสนับสนุนกิจกรรมอาหารกลางวัน ของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในจังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 4 โรง จากนั้น ทอดพระเนตรการทำเครื่องเงินของกลุ่มพัฒนาอาชีพบ้านเขาวัง อาทิ กำไลมือ สร้อยคอ แหวน และต่างหู ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ถมเงิน ที่จะส่งไปจำหน่ายยังร้านภูฟ้า ในเดือนมิถุนายนนี้ และในปี 2561 โรงเรียนฯ จะจัดทำแผนการเรียนการสอนถักเครื่องเงิน ทำเป็นสร้อยข้อมือ และสร้อยคอสี่เสา แก่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และปีที่ 5 เพื่อเป็นทักษะในการประกอบอาชีพต่อไป ต่อจากนั้น ทรงเยี่ยมราษฎรที่ไปเฝ้าทูลละอองพระบาท รับเสด็จและทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน โดยมีผู้ไปรับบริการ จำนวน 111 คน ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ รับผู้เจ็บป่วย ไว้ในพระราชานุเคราะห์ 4 คน และพระราชทานเงิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรับการรักษา จำนวน 8 คน

ซาบซึ้งในพระเมตตา !! สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจและทรงเยี่ยมราษฎร ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช!!

            เวลา 16.54 น. เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด "ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหลังอ้ายหมี" และ "อาคารเรียน บีทีเอสกรุ๊ฟ" ณ หมู่ 5 ตำบลวังอ่าง อำเภอชะอวด ซึ่งกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โดยกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 และเพื่อรองรับลูกหลานของราษฎรในพื้นที่ชุมชนห่างไกลจากสถานศึกษาของรัฐ ให้ได้รับการศึกษา เนื่องจากพื้นที่ตั้งชุมชนเส้นทางคมนาคมทุรกันดาร โดยขอใช้พื้นที่จากอุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า จัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนฯ ขึ้นเมื่อปี 2557 ต่อมาได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัทบีทีเอส สร้างอาคารบีทีเอสกรุ๊ฟขึ้น

          เปิดสอนเด็กชั้นก่อนวัยเรียนถึงประถมศึกษาปีที่ 5 ปัจจุบัน มีเด็กนักเรียน 87 คน , ครู ตชด. 6 นาย และผู้ดูแลเด็กเล็กอีก 2 คน มีการเรียนการสอนวิชาชีพพื้นฐาน โดยกลุ่มแม้บ้านและปราชญ์ชาวบ้าน อาทิ การทำน้ำพริกใบทำมัง , แยมกล้วย , น้ำยาล้างจาน , สบู่เหลว , สบู่ก้อน , การจักสานไม้ไผ่ เป็นตะกร้า ไม้กวาดดอกหญ้า และเสื่อกระจูด เพื่อไว้ใช้ภายในครัวเรือน หรือจำหน่ายในพื้นที่เป็นรายได้เสริม ในการนี้ ทรงฟังการกราบบังคมทูลรายงานของกลุ่มคนรักป่าต้นน้ำบ้านหลังอ้ายหมีควรปลิง ซึ่งเป็นราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า ที่รวมกลุ่มกันมาตั้งแต่ปี 2545 โดยมีคณะกรรมการหมู่บ้านร่วมกับสมาชิกในพื้นที่ 157 ครัวเรือน ประชากร 463 คน ตั้งกติกาชุมชนขึ้น เพื่อที่จะอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน

        นอกจากนี้ วิทยาลัยการอาชีพหัวไทร ได้ไปสาธิตสอนนักเรียนและผู้ปกครองรวมทั้งผู้ที่มีจิตอาสา ฝึกทำดอกไม้จันทน์ถวายอาลัยในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยใช้กระดาษสาทำเป็นดอกดารารัตน์และดอกกุหลาบ สำหรับกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน มุ่งเน้นให้นักเรียนมีความรู้และอุดมการณ์ หลักการและวิธีการสหกรณ์ที่ถูกต้อง ให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติแล้วสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ตามพระราชประสงค์

        นอกจากนี้ยังมีห้องสมุด ซึ่งได้รับการสนันสนุนจากสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน ร่วมกับกรมส่งเสริมสุขภาพสิ่งแวดล้อม และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จัดโครงการห้องสมุดสีเขียว ให้แก่ศูนย์การเรียนฯ โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รับเด็กที่ป่วย-หูไม่ได้ยินแต่กำเนิด ครอบครัวยากจน ไว้ในพระราชานุเคราะห์ด้วย

 

ข้อมูลและคลิปจาก : กรมประชาสัมพันธ์

ภาพจาก : เรารัก สมเด็จพระเทพ ฯ  : Our Beloved Princess Maha Chakri Sirindhorn