- 30 พ.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
จากกรณีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(30 พค.)นายถาวร เสนเสียม แกนนำ กปปส. พร้อมด้วยอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นกลุ่ม กปปส. ได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายถาวร เปิดเผยว่า กปปส.ทุกคนที่ไปทำกิจกรรมทางการเมือง ไม่มีใครลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค จะยังคงร่วมมือกันเหมือนเดิม คือ ลงสมัครรับเลือกตั้งตามโรดแมป และผลักดันให้การปฏิรูปประเทศสำเร็จตามที่เคยเรียกร้อง โดยยังสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. มีแนวคิดที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งถือเป็นแนวคิดส่วนตัว แต่หากในอนาคตหลังเลือกตั้ง แล้วนายอภิสิทธิ์ไม่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ขึ้นอยู่กับสมาชิกจะตัดสินใจอย่างไร ถือเป็นเรื่องของอนาคต แต่ขณะเดียวกันนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ ก็วิเคราะห์ถึงเรื่องดังกล่าว โดยเนื้อหาทั้งหมดระบุว่า
"สวัสดีครับแฟนข่าวทีนิวส์ครับ วันนี้วันที่ 30 พฤษภาคม 2560 ครับ ก็ทำเอางง 10 ตลบเลยครับ สำหรับบรรดาคอการเมืองทั้งหลายที่บรรดาแกนนำกปปส.ที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้เดินทางไปยังพรรคประชาธิปัตย์ และได้มีการพบปะพูดคุยกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และผู้บริหารพรรค หลังจากนั้นก็ออกมาแถลง ว่าทุกคนที่เข้ามาพรรคยินดีในการที่จะสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี แน่นอนละครับทำไมต้องงงเป็น 10 ตลบ ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ออกมาแถลงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วมีแรงกระแสตอบโต้ออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ว่าแกนนำกปปส.ทุกคนที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เห็นร่วมกันเป็นเอกภาพที่จะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
หลังจากนั้นก็มีการพูดคุยกันผ่านทางไลน์ในพรรคประชาธิปัตย์โจมตีว่าคนที่ไป สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี นั้นเป็นขี้ข้าพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งถือว่าเป็นถ้อยคำที่รุนแรงมากวันนี้การที่แกนนำกปปส.ที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแถลงหลังพบนายอภิสิทธิ์แบบนี้จึงทำให้คอการเมืองทั้งหลายไปกันไม่ถูกปรากฎว่าเย็นวันเดียวกันนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ออกมาไลฟ์สดทางเฟสบุ๊กส่วนตัวยืนยันว่าถึงเวลาที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อันเป็นแกนนำกปปส.จะต้องกลับไปเข้าพรรค ส่วนตนเองนั้นยังต้องอยู่ข้างนอกต่อไป เพราะประกาศแล้วจะไม่เล่นการเมืองไม่รับตำแหน่ง ตนเองเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ เมื่อแกนนำกปปส.กลับเข้าพรรคก็จะต้องดำเนินไปตามกฎกติกาของพรรค แต่อุดมการณ์นั้นยังยืนยันว่าเหมือนเดิม
ทีนี้ต้องติดตามกันต่อไปคือว่าบรรดาผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ในปัจจุบันซึ่งนำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งนาทีนี้ต้องถือว่ากุมอำนาจในพรรคได้อย่างเต็มที่มีความไว้เนื้อเชื่อใจต่อแกนนำกปปส.ให้กลับเข้าพรรคหรือไม่ และแกนนำกปปส.หากมีแนวทางขัดแย้งกันระหว่าง แนวทางของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องตัดสินใจอย่างไร ส่วนกปปส.นั้นไม่น่าเป็นห่วงอย่างใดนายสุเทพ ก็ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ถูกทิ้ง เพราะข้อเท็จจริงแล้วมวลมหาประชาชนไม่ได้เป็นของกปปส. หรือเป็นของใคร การที่ออกมาร่วมเคลื่อนไหวกับนายสุเทพ และกปปส.ในตอนนั้นเพราะทิศทางและแนวทางการเมืองที่ตรงกัน วันนี้กปป.ส.แม้จะเหลือนายสุเทพคนเดียวแต่พลังทั้งหากอุดมการณ์ยังเชื่อมโยงกับประชาชน นายสุเทพคนเดียวก็เพียงพออย่าแน่นอน