หลวงพ่อชาแสดงอิทธิฤทธิ์ สอนธรรมแบบนอกตำรา แต่ได้เห็นสัจจะธรรมที่แท้จริงยิ่งกว่าการทำตามตำราปฏิบัติในแบบของนักปริยัติ

หลวงพ่อชาแสดงอิทธิฤทธิ์ สอนธรรมแบบนอกตำรา แต่ได้เห็นสัจจะธรรมที่แท้จริงยิ่งกว่าการทำตามตำราปฏิบัติในแบบของนักปริยัติ

หลวงพ่อจันดี แห่งวัดป่าอัมพวัน ชลบุรี เล่าถึงหนึ่งในความประทับใจที่มีต่อหลวงพ่อชาว่า มีพ่อใหญ่อดีตมหาเปรียญผู้หนึ่งได้ขอให้หลวงพ่อชาอธิบายเรื่องตัณหาทั้งสาม คือ กามตัณหา ภวตัณหา และวิภวตัณหา แต่แทนที่หลวงพ่อชาจะอธิบายยืดยาว หลวงพ่อชากลับหยิบไม้สีฟันที่อยู่ข้างๆ มาอันหนึ่งแล้วยกขึ้นพร้อมกับถามว่า “ท่านมหา ไม้นี้สั้นหรือยาว” ท่านมหางงจังงังอยู่พักใหญ่ เพื่อนๆที่มาด้วยกัน 2-3 คนก็ได้แต่มองหน้ากัน
หลวงพ่อชาจึงพูดต่อไปว่า “ที่จริงไม้นี้ไม่สั้นไม่ยาว มันก็แค่นี้ แต่จะทำให้สั้นหรือยาวก็ได้ ในขณะที่อาตมากำลังถืออยู่นี่แหละ”

ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :อ่านก่อนควักเงินให้ทาน!!!... หลวงปู่ชา สอนเคล็ดลับการทำบุญแบบไม่ต้องใช้เงิน!!!

เมื่อหลวงพ่อชาพูดแบบนี้ เล่นเอาคนฟังทั้งงงทั้งตื่นเต้น เพราะคิดว่า หลวงพ่อจะแสดงอภินิหาร เสกไม้สีฟันให้สั้นหรือยาว ทุกสายตาจึงจ้องไปยังไม้สีฟันด้วยความจดจ่อ
หลวงพ่อชาได้กล่าวคาถาเป็นปริศนาว่า “ถ้าสมมติว่า โยมอยากได้ไม้ยาวกว่านี้ ไม้นี้ก็สั้นใช่ไหม ? แต่ถ้าโยมอยากได้ไม้สั้นกว่านี้ ไม้นี้ก็ยาวใช่ไหม ?”
ทุกคนนิ่งเงียบ
“นี่เป็นเพราะอะไร ? เป็นเพราะไม้หรือเป็นเพราะความอยากของโยม ?”  นี่คือการอธิบายเรื่องตัณหาด้วยวิธีของหลวงพ่อชา ซึ่งไม่มีอยู่ในตำราแต่ก็อยู่ในตำรา จะไปค้นในตู้หนังสือก็ไม่มี แต่มันมีอยู่ในตัวหลวงพ่อ

ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :“นั่งสมาธินานๆ ระวังจะเป็นสมาธิไก่” หลวงพ่อชา!!!  เตือนสติพระฝรั่งที่ชอบนั่งสมาธินานๆแต่ไม่เกิดปัญญา

อ.เสถียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต เล่าว่า 
หลวงพ่อชามีวิธีสอนเป็นอัศจรรย์ คือ ท่านไม่อ้างตำรา อ้างศัพท์บาลีให้รุงรัง พูดง่ายๆ พื้นๆ จากประสบการณ์ ลึกซึ้ง กินใจ ฟังแล้วเข้าใจทันที เช่น “ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นซับซ้อน ไม่เห็นได้โดยง่าย ถ้าไม่มีปัญญาแล้วเห็นไม่ได้ เหมือนเราได้ไม้มาท่อนหนึ่ง เป็นท่อนไม้ใหญ่ แต่ความจริงไม้ท่อนน้อยก็แทรกอยู่ในท่อนไม้ใหญ่นั่นแหละ หรือได้ไม้ท่อนน้อยมา ไม้ท่อนใหญ่มันก็แทรกอยู่ในนั้น โดยมากเมื่อได้ใหญ่แล้วก็เห็นแต่ใหญ่ ไม่เห็นน้อย เมื่อสุขก็นึกว่าจะมีแต่สุข เมื่อทุกข์ก็นึกว่าจะมีแต่ทุกข์ ไม่เห็นว่าทุกข์อยู่ที่ไหน สุขอยู่นั่น สุขอยู่ที่ไหน ทุกข์ก็อยู่ที่นั่น” คำพูดนี้ลึก แต่ฟังแล้วเข้าใจทันที ส่วนเข้าใจแล้วทำได้หรือเปล่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้ามัวแต่กางตำราก็ยากหน่อย

“นักปริยัติชอบสงสัยว่าเวลานั่งสมาธิ ถ้าจิตสงบปั๊ป เอ...มันเป็นปฐมฌานละกระมัง ชอบคิดอย่างนี้ พอนึกอย่างนี้จิตก็ถอนเลย ถ้าจิตเราสงบถึงขั้นนี้แล้ว ไม่รู้จักหรอก รู้อยู่แต่ว่ามันไม่เหมือนปริยัติที่เราเรียน ... เอาปริยัติของคุณใส่หีบห่อไว้เสีย เวลามีอะไรเกิดขึ้นมา มันไม่เป็นอย่างนั้น เหมือนเราเขียนตัวหนังสือไว้ว่า “ความโลภ” เวลาความโลภเกิดในใจ มันไม่เหมือนตัวหนังสือ “

ที่มา : FB : เพจวัดป่า @watpah 
        เรียบเรียงจากหนังสือกิ่งก้านแห่งโพธิญาณ และ หนังสือ สองอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ เสถียรพงษ์ วรรณปก
ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :อารมณ์ขันสไตล์หลวงพ่อชา!! อยู่ต่อหน้า "หลวงพ่อชา" อย่าอุตริคุยเรื่อง "อิทธิฤทธิ์-อภินิหาร" ... มิฉะนั้นอาจเป็นเช่นนี้!!
ข่าวโดย :  กิตติ จิตรพรหม ทีนิวส์  / สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ/ ทีมข่าวปัญญาญาณ – ทีนิวส์