ทักษิณจนมุมแล้วจริงหรือ? สหรัฐอเมริกาพลิกนโยบายกลับลำ“หนุนปรองดองก่อนเลือกตั้ง”หรือระบอบทักษิณจะจบสิ้นแล้ว คนเสื้อแดงจะทำอย่างไรต่อไป?(คลิป)

เป็นประเด็นที่พูดจาเล่าลือกันมากว่าสหรัฐอเมริกาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองไทย แลรู้เห็นเป็นใจกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ รวมทั้งยื่นมือเข้าแทรกแซงการประท้วงขับไล่ระบอบทักษิณ ก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ แม้หลายครั้งที่ทำไปขัดหลักการของสหรัฐเองและหลายหนและกระทำไปโดยไม่ชอบธรรม แต่วันนี้ประธานาธิบดีเปลี่ยน นโยบายเปลี่ยน เมื่อสหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญกับความปรองดอง ขณะเดียวกันนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ ก็วิเคราะห์ถึงประเด็นดังกล่าว โดยเนื้อหาทั้งหมดระบุว่า

"สวัสดีครับแฟนข่าวทีนิวส์ครับ วันนี้วันที่ 2 มิถุนายน 2560 ครับ ในระยะ 4-5 ปีหลังที่ผ่านมานี้ประเทศสหรัฐอเมริกาได้แปลเปลี่ยนจากความเป็นมิตรประเทศไทยซึ่งเคยจับมือต่อสู้กับลัทธิคอมมิวนิสต์มาอย่างยาวนานกลายมาเป็นศัตรูกับรัฐบาลหรือกองทัพที่ยืนอยู่ตรงข้ามระบอบทักษิณ ทูตสหรัฐฯแต่ละคนที่เข้ามาประจำในประเทศไทยลงไปเคลื่อนไหวกับบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงอย่างต่อเนื่องในรูปแบบต่างๆกัน บางครั้งถึงขนาดออกหน้าออกตาเชิญตัวแทนพรรคเพื่อไทย หรือคนเสื้อแดงไปร่วมงานที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจําประเทศไทย โดยไม่เชิญตัวแทนรัฐบาลของ ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยมีข้ออ้างว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารนั่นคือบรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างไทยสหรัฐฯในสมัยที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ชื่อบารัก โอบามา เอกอัครราชทูตสหรัฐฯคนล่าสุด ฃื่อ เกล็น เดวีส์ มีบทบาทการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างหนักหน่วง การต่อสู้กับเกาหลีเหนือมา บารัก โอบามา ย้าย เกล็น เดวีส์ มาประจำประเทศไทยนโยบายชัดเจนกดดัน

และดำเนินการบีบครั้นประเทศไทยในทุกรูปแบบปรากฏว่า ทันทีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเปลี่ยน จาก บารัก โอบามา มาเป็น ดอนัลด์ ทรัมป์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจําประเทศไทย ยังชื่อ เกล็น เดวีส์ แต่ท่าทีเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเฉพาะถ้อยแถลงที่เพิ่งแถลงออกมาว่าสหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญกับความปรองดองการแก้ไขปัญหาภายในประเทศของไทยมากกว่าการเลือกตั้งซึ่งพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือจากนโยบายเดิมที่บีบบังคับทุกอย่างให้เป็นไปตามโรดแมปหรือการเลือกตั้งเพียงเท่านั้น แน่นอนครับเอกอัครราชทูตเป็นข้าราชการการเมืองขึ้นตรงกับประธานาธิบดี ดังนั้นเมื่อประธานาธิบดีเปลี่ยน นโยบายเปลี่ยน เอกอัครราชทูตก็ต้องปฎิบัติตามแนวนโยบายของประธานาธิบดี

นับจากนี้ไปก็ต้องจับตาดูละครับว่าเมื่อสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนนโยบายเป็นแบบนี้แล้วระบอบทักษิณซึ่งเคยพึ่งพิงสหรัฐอเมริกาภายใต้นโยบายรอบล้อมประเทศบีบครั้นประเทศไทยเสมอมาจะทำอย่างไรต่อไป หรือวันนี้ทักษิณจนมุมหมดทางแล้วเหลือเฉพาะเครือข่ายคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งที่กำลังเคลื่อนไหวด้วยกองกำลังติดอาวุธซึ่งทักษิณก็ได้ปฎิเสธแล้วไม่ใช่พวกตัวเอง ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปครับ นโยบายต่างประเทศในครั้งนี้ของของรัฐบาลพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่าเยี่ยมยอด