อยู่เฉยไม่ได้!!! ผู้บริหารกระทะ "โคเรีย คิง" ขอพึ่งเพจดังร้องเป็นธรรม แจมปมร้อนโดนถล่มคุณภาพด้อยขายแพงเกินจริง โอดยอดขายตก #เดือดร้อนมาก?

เรียกได้ว่าเป็นกระเเสสังคมที่ประชาชนยังเคลือบแคลงใจ กับกรณี “กระทะโคเรียคิง” โปรโมทขายสินค้า ด้วยการโฆษณาเกินจริง หลอกลวงผู้บริโภค จนถูกสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีมติให้บริษัทนำเข้ากระทะโคเรียคิงยุติการโฆษณาเกินจริงทั้งหมด 

 

 

 

ล่าสุดบนเฟซบุ๊ก "แหม่มโพธิ์ดำ " โพสต์ข้อความซึ่งอ้างว่าเป็นผู้บริหารกระทะโคเรียคิง ออกชี้เเจ้งถึงกรณีดังกล่าวระบุดังนี้ "#เปิดใจผู้บริหารโคเรียคิง #มหากาพย์กระทะทองคำ สวัสดีครับควีน ผมเป็นหนึ่งในผู้บริหารกระทะโคเรีย คิงนะครับ ตั้งแต่เกิดเรื่อง ผมแทบไม่เคยออกมาโต้ตอบ และพยายามนิ่งเงียบ แก้ปัญหาด้วยความตั้งใจ แต่วันนี้มันผ่านมาเดือนครึ่ง ผมขอโอกาสในการชี้แจงสักครั้งนะครับจุดเริ่มต้นเรื่องมาจากประมาณต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้ มีมือมืด ถ่ายภาพกระทะ Korea King รุ่นประหยัดที่มีขายอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ราคาใบละ 600 บาท โดยตั้งใจถ่ายเจาะเฉพาะ ยี่ห้อและราคา ซึ่งเป็นคนละรุ่นกับที่มีขายอยู่ในประเทศไทย (ในประเทศไทยเป็นรุ่น ไดมอนซีรียส์ ราคาลดแล้วเหลือ 3,900 บาท ซื้อ 1 แถม 1 และแถมตะหลิว  กล่องละชิ้น)  

โดยโพสต์ว่า สงสารคนไทยที่ถูกหลอก เมืองไทยซื้อกระทะแพง ที่สิงคโปร์ขายแค่ใบละ 600 บาท คนจำนวนมากไม่ได้มีดุลย์พินิจว่าเป็นคนละรุ่น ทำให้เกิดการแพร่กระจายและเกิดความเข้าใจผิดไปอย่างรวดเร็ว  หลังจากนั้นทางเราได้ออกมาชี้แจง แต่กลับถูกโจมตีในเรื่องอื่นๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ราคาตั้งที่สูงเกินจริง เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย  คุณภาพการเคลือบ 8 ชั้นจริงหรือไม่ การจับผิดโรงงาน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พยายามรวบรวมลูกค้าผู้ซื้อเพื่อขอเป็นตัวกลางในการเจรจากับเรา มาจนถึงเมื่อวานนี้ อาจารย์เกษมสันต์ วีระกุล ซึ่งเป็นผู้ วิพากษ์วิจารณ์เราอย่างหนัก ก็ได้มีการออกอากาศสดทาง facebook ข้อเท็จจริงคือ กระทะที่จำหน่ายในประเทศสิงคโปร์ เป็นกระทะคนละรุ่น ผลิตด้วยมาตรฐานคนละแบบราคาขายจึงแตกต่างกัน 

 

 

 

ราคาตั้ง 18,000 บาท เป็นราคาที่ถูกกำหนดให้ขายจากประเทศเกาหลี ทางสคบ. ได้เรียกเราเข้าไปชี้แจงเรื่องการตั้งราคา เราได้นำเสนอเอกสาร ข้อกำหนดต่างๆ ที่เซ็นกับประเทศเกาหลีให้ สคบ. ทางเราน้อมรับคำตัดสินของ สคบ. และได้เจรจากับทางเกาหลีขอยกเลิกราคาตั้ง 18,000 บาท และได้ระงับสื่อโฆษณาตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา  #ถึงแม้ในประเทศไทยไม่มีกฎหมายกำหนดราคาตั้งขายของสินค้า แต่ทางเราเข้าใจความกังวลของสังคมและน้อมรับที่จะปรับเปลี่ยนแก้ไขครับ 

 

 

กระทะ Korea King  ผลิตจากประเทศเกาหลี และนำเข้าอย่างถูกต้องตามพิธีการทางศุลกากรครับ เราเพียงแค่นำมาบรรจุกล่องกระดาษที่ทำในไทยเท่านั้นครับ ไม่ว่าจะเป็นกระทะและตะหลิวเป็นการผลิตและนำเข้าจากประเทศเกาหลีครับ กระบวนการเคลือบ 8 ชั้น รวมถึงเทคนิคการเคลือบของกระทะทุกยี่ห้อในตลาด ไม่สามารถจะผ่ากระทะพิสูจน์จำนวนชั้นเคลือบ ดังเช่นที่อาจารย์วีระชัย ออกมาเสนอข่าวโจมตี Korea King กระทะเกือบทุกยี่ห้อที่เป็นแบบ non stick pan หลังจากการเคลือบชั้นสุดท้าย จะต้องผ่านกระบวนการอบที่ความร้อนสูง ทำให้การเคลือบแต่ละชั้นหลอมรวมเพื่อความแข็งแรงทนทาน กระทะ Korea King  ใช้การพ่นเคลือบด้วยหัวพ่นเคลือบ 13 หัว พ่นเคลือบ 8 ชั้นจริงครับ 

 

 

หลังจากมีกระแสเรื่องนี้ อย่างหนัก ทางเราได้เจรจากับทางประเทศเกาหลีเพื่อให้มีการถ่ายคลิปวิธีการผลิต แต่ก็มีความกังวล สินค้า Korea King เป็นสินค้าที่ไม่มีโรงงานเอง เขาใช้โรงงานคู่ค้าที่มีความสัมพันธ์กับเขามานาน เรากังวลในเรื่องความเก่าแก่ของโรงงาน อันที่จริงแล้วทางเราเริ่มทำตลาดกระทะ Korea King มาหลายปี ในระยะแรกแรกขายไม่ดีเลยครับ ได้รับข้อตำหนิจากลูกค้า ทางประเทศเกาหลี เขาก็จริงใจในการช่วยเหลือพัฒนาแก้ไข คุณภาพสินค้า อย่างใกล้ชิดและจริงจัง ครั้นต่อมาในระยะหลัง เราเริ่มทำตลาดได้ชัดเจนมากขึ้น มียอดขายสูงขึ้น เราไม่สามารถ หักหลังเขา ยกเลิกโรงงานที่เขาใช้และไปกดดันให้เขาใช้โรงงานอื่น เพราะทางเขากับโรงงานก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน  เมื่อทางเราได้เสนอคลิปขั้นตอนการผลิตออกไปกลับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ และถูกจับผิดอย่างมากมาย จริงครับ เราไม่สมบูรณ์ เราไม่เพอร์เฟค และเราก็มีสิ่งที่ต้องแก้ไขอยู่ตลอดเวลาครับ เรามีนโยบายการรับประกันความพึงพอใจของสินค้าอย่างชัดเจน หากลูกค้าไม่พอใจสินค้า เรายินดีเปลี่ยนสินค้าใหม่ให้หรือหากลูกค้าต้องการคืนสินค้าเราก็ยินดีคืนเงินให้ลูกค้าด้วย ที่ผ่านมาก็มีลูกค้าบางรายที่ต้องการเปลี่ยนสินค้าหรือคืนสินค้า เราก็ปฏิบัติตามนโยบายนี้มาโดยตลอดครับ 

 

 

 

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ขออาสาเป็นตัวกลาง เพื่อต้องการเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างผู้ซื้อสินค้ากับทางบริษัท โดยส่งหนังสือมาที่เรา ทางเราได้แจ้งกลับไปว่า ขอให้ลูกค้าที่ไม่พึงพอใจ คุณภาพสินค้า ติดต่อมาที่เราได้โดยตรงทางเรายินดีดูแลตามความประสงค์ของลูกค้าให้ทุกราย แต่ทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ก็ยืนยันอยากจะแถลงข่าว และไปแถลงว่าทางเราเพิกเฉย และเมินการเจรจา ความจริงแล้ว การจะต้องมี คนกลางเข้ามาไกล่เกลี่ย หมายความว่า ผู้ซื้อและผู้ขาย ตกลงกันไม่ได้ จึงต้องมีคนกลางเข้ามาช่วยแต่กรณีนี้ เรายินดีดูแลลูกค้าให้ทุกรายจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคทำแบบนี้ 

 

 

ผมเห็นว่า กรณีนี้เกิดกระแสแบบไม่เป็นธรรมชาติ เมื่อเราผิดพลาดบกพร่อง เราน้อมรับ เราแก้ไข หากมีผู้บริโภคที่ไม่พึงพอใจสินค้าเราก็ดูแลทุกราย ตามที่ลูกค้าต้องการ ตอนนี้รู้สึกเหมือนกับว่า มีคู่แข่งทางธุรกิจอยู่เบื้องหลัง เพราะผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์เราในทางลบ มีการบูสโพส เป็นระยะๆ เราเป็นคนทำการค้า บางครั้งเราทำผิดพลาด เมื่อเกิดความผิดพลาด เราเสียใจครับ เราจะแก้ไข และทำให้ดีกว่าเดิม เรามองว่าการจะทำตลาดให้ยั่งยืน ผู้บริโภคต้องพึงพอใจในสินค้าและบริการครับ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม เราไม่สามารถขายสินค้าได้เลยครับ พนักงานในส่วนงานต่างๆ ได้แต่รอไม่ได้ทำงานเลยครับ บริษัทเรามีค่าใช้จ่ายมากมาย ค่าเงินเดือนพนักงาน ค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ เราเดือดร้อนมากครับ ช่วยให้ความเป็นธรรมกับเราด้วยนะครับ

 

 

ขอบคุณที่มา : เฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ