ยิ่งลักษณ์สะเทือน!!!พวกล้มเจ้าสะท้าน!?!“ศิริชัย”จ่อผงาดปธ.ศาลฏีกาพบเป็น1ใน9ผู้พิพากษา“โกงจำนำข้าว”เคยสั่งจำคุกคนหมิ่น“รัชกาลที่4”

       จากรณีสำนักคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต. เผยแพร่บัญชีโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการตุลาการ (บัญชี 1) (ส่งพร้อมบันทึกสานักงานศาลยุติธรรมที่ ศย 003 (ก.ต.)/ลงวันที่ มิถุนายน 2560) เลื่อนชั้น 4 เป็นชั้น 5 นายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานอุทธรณ์ ขึ้นเป็นประธานฎีกา ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป โดยจะมีการนำรายชื่อเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณากลั่นกรองของอนุ ก.ต. ก่อนจะเสนอ ก.ต.ต่อไป ซึ่งนายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกาคนปัจจุบันจะพ้นตำเเหน่งในวันที่ 30 กันยายน และคาดว่าจะมีการเสนอชื่อเรื่องบุคคลที่จะดำรงตำเเหน่งประธานศาลฎีกาภายในเดือนกรกฎาคมนี้

       ทั้งนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ตั้ง 9 ผู้พิพากษาฎีกาเป็นองค์คณะรับผิดชอบคดีโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายให้รัฐ 6 แสนล้านบาท ที่นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง “อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ซึ่งนายศิริชัย วัฒนโยธิน รองประธานศาลฎีกา คนที่ 4 ศิษย์เก่านิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้รับเลือกด้วย อีกทั้งยังมีชื่อเป็นองค์คณะพิจารณาคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ยื่นฟ้อง “นายสมชาย วงษ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นพี่เขย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับพวกรวม 4 คน ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรปี2551

       นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่านายศิริชัย ยังเคยเป็น1ใน 3 องค์คณะผู้พิพากษาที่เคยมีคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 6374/2556 กรณีจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พูดใส่ความหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ในอดีตที่สวรรคตไปแล้ว โดยศาลเห็นว่า ประชาชนชาวไทยผูกพันกับสถาบันกษัตริย์มาตลอด แม้จะเสด็จสวรรคตไปแล้ว ประชาชนก็ยังเคารพสักการะ ยังมีพิธีรำลึกถึง โดยทางราชการจัดพิธีวางพวงมาลาทุกปี

 

      อย่างไรก็ตามสำหรับคดีในคดี ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ ต่อพระราชินี ต่อรัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เกิดขึ้นระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี โจทก์ กับณัชกฤช จึงรุ่งฤทธิ์ จำเลย ซึ่งได้มีคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2556 โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2548  ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของและผู้จัดรายการสถานีวิทยุชมชน ชื่อรายการ ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ โฆษณาโดยการกระจายเสียงในรายการดังกล่าว มีข้อความบางส่วนกล่าวถึงรัชกาลที่4 ซึ่งศาลมองว่าข้อความดังกล่าวมีความหมายเป็นการใส่ความ หมิ่นประมาท ดูหมิ่นรัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ในอดีต เปรียบเทียบว่า ยุคของพระองค์เหมือนต้องไปเป็นทาส ไม่มีความเป็นอิสระ มีการปกครองที่ไม่ดี ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้รัชกาลที่ 4 เสื่อมเสียพระเกียรติยศ เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง โดยเจตนาทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพสักการะ ต่อมาจำเลยให้การรับสารภาพศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำคุกสี่ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกสองปี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดสองปี จากนั้นศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้อง แต่เมื่อคดีถึงศาลฏีกาได้ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น