- 22 มิ.ย. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
หลังจากเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา 22 มิ.ย. ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธานในการประชุม ได้เห็นชอบผ่านร่างพ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และร่างพ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ 2 ฉบับรวด ก็ได้มีบรรดานักการเมืองฝ่ายต่างๆ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ขณะเดียวกันนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ ก็ได้วิเคราะห์ถึงประเด็นดังกล่าว โดยเนื้อหาทั้งหมดระบุว่า
"สวัสดีครับแฟนข่าวทีนิวส์ครับวันนี้วันที่ 22 มิถุนายน 2560 ครับ วันนี้มีร่างพระราชบัญญัติ 2 ฉบับ ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต้องถือว่าเป็นร่างพระราชบัญญัติที่สำคัญต่ออนาคตประเทศละครับ ฉบับแรกคือ ร่างพ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ส่วนอีกฉบับก็คือ ร่างพ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ สำหรับร่างพ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ นั่นนะครับหลังจากประเทศใช้แล้วก็จะใช้ขั้นตอนการดำเนินการให้เสร็จสิ้นเป็นระยะเวลา 220 วัน เป็นอย่างช้าที่สุด นั่นหมายความว่า หลังจากที่ร่างกฎหมายนี้ผ่านแล้วการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติก็จะอยู่ภายใต้มือของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานั่นเอง สำหรับระยะเวลา 220 วันนั้นก็คือ หลังจากมีการจัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติแล้ว ตัวคณะกรรมการก็จะแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติซึ่งจะต้องทำให้เสร็จภายใน 120 วัน
จากนั้นคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติก็จะเสนอต่อ ครม.พิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งรวมเป็น 150 วัน หลังจากนั้นสนช.พิจารณาภายใน 30 วัน รวมเป็น 150 วัน และสนช.ต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบภายใน 30 วัน รวมเป็น 210 วัน จากนั้นนายกฯนำร่างยุทธศาสตร์ชาติขึ้นทูลเกล้าฯภายใน 10 วัน ส่วนร่างพ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ ก็เป็นร่างพ.ร.บ.ที่ออกมาเพื่อจะใช้ควบคู่กับร่างพ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาตินั่นเอง ร่างพ.ร.บ.การปฏิรูปประเทศจะกำหนดให้มีการกำหนดคณะกรรมการปฏิรูปประเทศแต่ละด้าน จำนวน 11 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านการเมือง 2.ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน 3.ด้านกฎหมาย 4.ด้านกระบวนการยุติธรรม 5.ด้านการศึกษา 6.ด้านเศรษฐกิจ 7.ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 8.ด้านสาธารณสุข 9.ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ 10.ด้านสังคม และ 11.ด้านอื่นตามที่ครม.กำหนด การจัดทำร่างพ.ร.บ.แผนการปฏิรูปประเทศนั่น แต่ละด้านนั่นจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 90 วัน แล้วเสนอให้ที่ประชุมร่วมกันของคณะกรรมการปฏิรูปทุกคณะพิจารณา นอกจากนี้ ต้องเสนอให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อพิจารณาว่าร่างแผนการปฏิรูปประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติหรือไม่ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับร่างแผนการปฏิรูปประเทศก่อนเสนอให้ครม.เห็นชอบต่อไป เห็นไหมครับร่างพ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับ จะทำงานสอดคล้องกัน นั่นหมายความว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จะดำเนินการทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศ เสร็จสิ้นก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง
แน่นอนครับเรื่องนี้ทำให้เกิดความไม่พอใจกับนักการเมืองทุกฝ่ายมีเหตุผลอันเดียวกันก็คือ เห็นว่าเป็นเรื่องการจำกัดไม่ให้รัฐบาลเข้ามาบริหารหลังจากนี้สามารถที่จะดำเนินนโยบายได้อย่างอิสระ ถือว่าผิดครรลองประชาธิปไตย ที่ประชาชนเลือกตั้ง โดยข้องเท็จจริงแล้วสิ่งที่เราได้เห็นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ผ่านการเลือกตั้งโดยเฉพาะ นับตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมาเป็นระยะเวลา 20 ปี ไม่เคยมีนักการเมือง หรือรัฐบาลชุดไหนได้เคยกำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติเลย สร้างนโยบายเฉพาะหน้าออกมาแต่ละครั้งในการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในระยะหลังๆ เป็นนโยบายประชานิยมทั้งสิ้น ก็ประวัติศาสตร์ได้ชี้กันลงไปว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ และคสช. ซึ่งได้กำหนดจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาตินั่น ได้สร้างชาติให้เจริญเข้มแข็ง มั่นคงต่อไปในวันข้างหน้า จะล้มเหลวตามที่นักการเมืองกล่าวโจมตี ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกไว้แน่นอนครับ เพราะวันหนึ่งความจริงจะต้องปรากฎออกมา
.