หนักจริงเมืองไทย-อีกหน่อยกระดูกก็คงไม่เหลือ?! ช็อก"แก๊งโกงเงินทอนวัด" งาบใหญ่วัดพนัญเชิงฯ 13 ล้าน หลอกต้มเจ้าอาวาสสารพัดเพื่อหวังทุจริต?

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

เมืองไทยคุ้ยตรงไหนเจอโกงตรงนั้น?! ช็อก "แก๊งโกงเงินทอนวัดสำนักพุทธฯ" งาบใหญ่วัดพนัญเชิงฯ 13 ล้าน จากเงินทั้งสิ้น 20 ล้านหรือกว่าครึ่ง หลอกต้มเจ้าอาวาสสารพัดสารเพ อ้างเดิมๆ รับเงินได้เลยถูกกฎหมาย แต่ต้องโอนคืนเท่านั้นเท่านี้ เพราะจะเอาไปพัฒนาวัดอื่นที่ยากจนต่อไป  

 

วันนี้ (27 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสายที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมวัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา นายสมศักดิ์ โตรักษา ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของวัดพนัญเชิงวรวิหาร และนายวัชรินทร์ อธิพรชัย ผู้ช่วยที่ปรึกาฝ่ายกฎหมาย แถลงข่าวกรณีการรับเงินอุดหนุนการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดพนัญเชิงวรวิหาร และการพัฒนาวัดประจำปีพ. ศ. 2555 ถึงพ.ศ 2559 จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งวัดพนัญเชิงฯ เป็นวัดที่เข้าข่ายทุจริต 12 วัด ตามที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบระบุไว้ โดยวัดพนัญเชิงฯ อยุ่ในลำดับที่ 1 หรือมีการทุจริตมากที่สุดถึง 13 ล้านบาท


โดยปัจจุบัน วัดพนัญเชิงวรวิหาร มีพระธรรมรัตนมงคล (แวว กตสาโร ) เป็นเจ้าอาวาสฯ ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2547 มาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 13 พรรษา และสืบเนื่องจากทางวัดได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ศาสนสถานที่มีอยู่เดิม และก่อสร้างกุฏิตลอดจนสิ่งปลูกสร้างภายในวัดเรื่อยมา โดยนำเงินที่ประชาชนทำบุญและเงินอุดหนุนจากทางราชการมาดำเนินการดังกล่าว ในการดำเนินการมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตลอดจนคณะกรรมการของวัดได้ร่วมกันตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดตลอดมา

 

จากนั้นเมื่อปี พ.ศ 2555 วัดได้ก่อสร้างกุฏิทรงไทยจำนวน 9 หลังและในปี 2556 วัดได้ก่อสร้างทางเดินรอบวิหารหลวงพ่อโต โดยนำรายได้จากการทำบุญและเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา มาดำเนินการต่อมาเมื่อปลายปี 2556

 

นางสาวประนอม คงพิกุล ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในขณะนั้นซึ่งรู้จักกับพระธรรมรัตนมงคล เจ้าอาวาส เนื่องจากมีการติดต่อกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับกิจการของศาสนา

โดยนางสาวประนอม ได้โทรศัพท์หาพระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร โดยแจ้งว่าทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะให้เงินอุดหนุนทางวัดจำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินอุดหนุนวัดในงบประมาณปี 2557 เพื่อให้วัดดำเนินการบูรณะปฏิสังขรณ์ภายในวัด โดยนางสาวประนอมแจ้งว่าเงินดังกล่าว ให้วัดเพื่อการบูรณะปฏิสังขรณ์จำนวน 2 ล้านบาทส่วนอีก 8 ล้านบาท จะนำไปให้วัดอื่นที่ยากจน ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ศาสนสถานภายในวัดและพัฒนาวัด

ขณะที่เงิน 2 ล้านบาท ทางเจ้าอาวาสได้นำไปใช้ปรับปรุงก่อสร้างทางเดินบริเวณวิหารหลวงพ่อโต จากนั้นต่อมาประมาณปลายปี 2557 นางสาวประนอม ได้ติดต่อมายังพระธรรมรัตนมงคล เจ้าอาวาส อีกครั้ง โดยบอกว่าจะให้เงินสนับสนุนวัดอีกเป็นจำนวนถึง 10 ล้านบาท แต่ขอให้ทางวัดมอบเงินสดจำนวน 5 ล้านบาท ให้แก่นางสาวประนอมนำไปช่วยวัดอื่นๆ ที่ยากจนต่อไป ส่วนเงิน 5 ล้านบาท ทางเจ้าอาวาสได้นำไปปรับปรุงกุฏิทรงไทย 9 หลัง เกี่ยวกับเงินอุดหนุนวัดในงบประมาณปีพ.ศ 2557 และปี 2558 นั้น ที่นางสาวประนอม จัดมาให้พระธรรมรัตนมงคลได้สอบถามนางสาวประนอม ว่าถูกกฎหมายหรือไม่ นางสาวประนอมตอบว่าถูกกฎหมาย พระธรรมรัตนมงคลเชื่อและดำเนินการตามที่นางสาวประนอมแนะนำมา ประกอบกับเห็นว่านางสาวประนอมเป็นผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับงบประมาณอุดหนุนวัดต่างๆ ในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)

 

ทั้งนี้ จากข้อมูลของกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ระบุว่า จากตรวจสอบข้อมูลเงินงบประมาณจาก พ.ศ.ในช่วงปี 2555 - 2559 พบมีการเบิกจ่ายงบประมาณ 30 กว่าวัด พบวัดเข้าข่ายทุจริต 12 วัด โดยพบวัดพนัญเชิงฯ มีการทุจริตสูงที่สุดถึง 13 ล้าน ตรงกับที่ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของวัดระบุ

โดยรายละเอียดวัดที่การทุจริต 12 แห่ง คือ

1.จ.พระนครศรีอยุธยา 1 วัด คือ วัดพนัญเชิงวรวิหาร  
2.จ.ลำพูน 1 วัด คือ วัดพระพุทธบาทตากผ้า  
3.จ.เพชรบุรี 1 วัด คือ วัดห้วยตาแกละ   
4.จ.ชุมพร 1 วัด คือ วัดราชบุรณะ (วัดนอก)   
5.จ.อำนาจเจริญ 3 วัด คือ วัดโพธิ์ศรี, วัดโคกเลาะ ,วัดพระศรีเจริญ 
6.จ.ลำปาง 5 วัด คือ วัดวัฒนาราม,วัดหาดปู่ด้าย,วัดทุ่งต๋ำ ,วัดบ้านอ้อ และ วัดอุมลอง 

โดยวัดที่มีข้อมูลยอดเงินทุจริตมากที่สุดคือ วัดพนัญเชิงวรวิหาร มูลค่า 13 ล้านบาท รองลงมาคือ วัดห้วยตาแกละ 11 ล้านบาท ตามลำดับ

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews