สุดสยอง !!! "วัดเมือง" ประวัติศาสตร์ลานกุดหัวอั้งยี่ ที่ยังคงสืบทอดเรื่องเล่าความหลอน !!! จากปากต่อปาก จากรุ่นสู่รุ่น !!!

ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th/

ถ้าจะพูดถึง ตำนานความหลอนวิญญาณสุดเฮี้ยน น้อยคนนักที่จะไม่พูดถึงชื่อ วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ ที่บางคนมักเรียกติดปากว่า ลานประหารอั้งยี่ ซึ่งสมัยรัชกาลที่ 3 นั้น ลานวัดแห่งนี้ มีการนองเลือดมากมายจากการตัดหัวโจรขโมยอั้งยี่ ในสมัยนั้น และวันนี้เรามีเรื่องสุดหลอนที่เล่าขานกันมาให้ฟังกันครับ

สุดสยอง !!! "วัดเมือง" ประวัติศาสตร์ลานกุดหัวอั้งยี่ ที่ยังคงสืบทอดเรื่องเล่าความหลอน !!! จากปากต่อปาก จากรุ่นสู่รุ่น !!!

เช่าพระคลิ๊กที่นี่
บ้านพระเครื่อง

 

ลานประหารวัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ แต่เดิมนั้นชื่อว่า วัดเมือง ตั้งอยู่ที่จังหวัด ฉะเชิงเทรา ในการประหารพวกอั้งยี่ หรือ พวกกลุ่มโจรนั้นเกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ.2391 ในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งถือว่าเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางในหัวเมืองใหญ่น้อย โดยมีทั้งคนสมน้ำหน้าสะใจ แต่บ้างก็มีคนสงสารเวทนา โดยสมัยนั้นมีกฎว่า พวกอั้งยี่ทุกคนที่จับได้จะถูกกุดหัว โดยการตัดคอ และฝังลงดินแบบศพไร้ญาติ เพราะไม่มีใครกล้านำศพไปทำพิธี ถึงขนาดไม่กล้ามีใครแต่ต้องศพ หรือ แสดงท่าทีเศร้าใจ เพราะเกรงว่าอาจจะถูกข้อหาสมรู้ร่วมคิดและจะถูกประหารชีวิตตามไปด้วย จึงจำเป็นต้องปล่อยให้ ญาติพี่น้องหรือคนรู้จักสนิทสนมของตัวเองต้องถูกตัดคอต่อหน้าต่อตา และฝังแบบศพไร้ญาติ อย่างทุกช์เวทนา และทุกศพของพวกอั้งยี่นั้น ก่อนที่จะตายจิตสุดท้ายก่อนที่จะเสียชีวิตโดยการตัดหัวนั้น จะเต็มไปด้วยความกลัว อารมณ์โกรธแค้น ชิงชัง พอถูกประหารเสียชีวิตไปแล้วชาวบ้านจึงเชื่อว่า ดวงวิญญาณของพวกอั้งยี่จะยึดติดกับอารมณ์ดังกล่าว จนนำพาไปยังทุกขติยภูมิ ตอนอยู่ในโลกของวิญญาณ ความแค้นและแรงอาฆาต ที่ฝังใจก่อนจะตายนั้น ทำให้วิญญาณแต่ละดวงไม่สงบสุข หาทางไปเกิดไม่ได้เพราะจมอยู่กับห่วงอาฆาต ทั้งยังเป็นวิญญาณตายโหง ทั้งยังไม่ได้ทำพิธีกรรมเพื่อปลดปล่อย วิญญาณทั้งหลายจึงสิงสถิตอยู่ในวัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์เต็มไปหมด

สุดสยอง !!! "วัดเมือง" ประวัติศาสตร์ลานกุดหัวอั้งยี่ ที่ยังคงสืบทอดเรื่องเล่าความหลอน !!! จากปากต่อปาก จากรุ่นสู่รุ่น !!!

วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ หรือวัดเมืองในสมัยนั้นจึงขึ้นชื่อมากเรื่องความเฮี้ยนและผีดุ โดยมีเรื่องเล่ามากมายจากคนเก่าคนแก่ในบริเวณนั้นที่เล่าสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยผู้ที่ประสบพบเจอวิญญาณอั้งยี่หลายปากเล่าว่า เห็นคนจีนเลือดท่วมตัว เดินหิ้วหัวไปมาอยู่รอบวัดมากมาย บางทีก็มาคนเดียวบางทีก็มากันเป็นกลุ่มจนแน่นลานวัด บางคนก็เล่าว่าเห็นคนแขนขาด ขาขาด ไส้ไหล เลือดท่วมตัวเดินโซเซ ผอมแห้งเหลือแต่กระดูก สภาพอดอยากหิวโหย เหมือนพยายามหาทางออกแต่ก็หายไม่เจอเดินวนเวียนไปมา เนื่องจากไม่มีผู้ใดเลยที่ทำบุญให้ เพราะญาติพี่น้อง หรือคนที่รู้จัก เกรงว่าการที่ทำบุญ หรือทำพิธีทางศาสนาให้พวกอั้งยี่ ที่ถูกตัดคอนั้นจะถูกจับ จนทำให้วิญญาณต่างๆในลานวัดต้องหิวโซและแวะเวียนออกมาให้ผู้พบเห็นเป็นระยะอาจจะหวังบุญเล็กน้อยบ้างเพื่อให้ได้ไปผุดไปเกิด

สุดสยอง !!! "วัดเมือง" ประวัติศาสตร์ลานกุดหัวอั้งยี่ ที่ยังคงสืบทอดเรื่องเล่าความหลอน !!! จากปากต่อปาก จากรุ่นสู่รุ่น !!!

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องเล่าที่กล่าวขานกันมาปากต่อปาก ที่คนในพื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้เชื่อว่าคือเรื่องจริง ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้จะไม่หลงเหลือร่องรอยเกี่ยวกับการประหารตัดคอพวกอั้งยี่หลงเหลืออยู่แล้วก็ตาม วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ หรือ วัดเมือง ก็ยังคงเป็นวัดที่คนพูดถึงในเรื่องความเฮี้ยนและสยองนี้อยู่อย่างไม่ขาดสาย

สุดสยอง !!! "วัดเมือง" ประวัติศาสตร์ลานกุดหัวอั้งยี่ ที่ยังคงสืบทอดเรื่องเล่าความหลอน !!! จากปากต่อปาก จากรุ่นสู่รุ่น !!!

สุดสยอง !!! "วัดเมือง" ประวัติศาสตร์ลานกุดหัวอั้งยี่ ที่ยังคงสืบทอดเรื่องเล่าความหลอน !!! จากปากต่อปาก จากรุ่นสู่รุ่น !!!