- 28 มิ.ย. 2560
ติดตามรายละเอียด : http://www.tnews.co.th
ที่ สภ.ช่องเม็ก ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี นางบุญโฮม เชื่องดี อายุ 64 ปี ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าตำรวจพร้อมกับนำหนังสือเอกสารการทวงหนี้จากสหกรณ์การเกษตรแห่งหนึ่ง ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าแจ้งความ เนื่องจากเอกสารดังกล่าวได้ส่งมาถึงนางบุญโฮม โดยระบุว่า ตามที่นางบุญโฮม เชื่องดี ในนามของกลุ่มร้านค้าชุมชนตำบลช่องเม็ก ได้สั่งซื้อสินค้าเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ไปจากสหกรณ์การเกษตร จำนวน 30 ตัน เป็นเงินจำนวน 402,000 บาท และได้ทำสัญญาซื้อขายสินค้าเป็นเงินเชื่อ โดยกำหนดชำระให้เสร็จสิ้นภายใน วันที่ 7 มี.ค. 2560 และได้ล่วงเลยเวลามานาน แต่ยังได้เพิกเฉยไม่จ่าย
ทั้งนี้ นางบุญโฮม กล่าวว่า ตนได้รับหนังสือทวงหนี้ถึงกับช็อก เพราะตนไม่ทราบเลยว่าหนี้ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นได้ยังไง เนื่องจากตนไม่เคยได้ไปทำสัญญา หรือทำเรื่องซื้อปุ๋ย จากสหกรณ์การเกษตรแต่อย่างใด ที่สำคัญตนเขียนหนังสือไม่เป็นจะทำหรือลงนามเอกสารต่างๆ จะต้องมีการประทับลายนิ้วมือแทน
โดยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาตนได้ให้ลูกสาวนำเอกสารไปให้กับนายสังเวียน แสนงาม ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน แต่เอกสารดังกล่าวเป็นการนำไปยื่นเรื่องขอโค-กระบือ มาเลี้ยง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องซื้อปุ๋ย ตนได้นำหนังสือดังกล่าวไปยื่นต่อนายสังเวียน แล้วสอบถามว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร แล้วทำไมตนถึงต้องมาตกเป็นผู้ซื้อปุ๋ยกับสหกรณ์ดังกล่าว ซึ่งนางบุญโฮมกล่าวว่านายสังเวียนได้เพียงแต่พูดว่า เดี๋ยวแก้ไขให้ แล้วโทรศัพท์ไปต่อว่าให้กับนายบา (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ซึ่งนายสังเวียนระบุว่า นายบา เป็นผู้ที่ทำเอกสารเองทั้งหมด
ด้าน น.ส.ราตรี ลือสาคร ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรบ้านแพรก จำกัด กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า กลุ่มร้านค้าชุมชนตำบลช่องเม็ก โดยนายสังเวียน แสนงาม เป็นประธานกลุ่ม และมีเอกสารของกรรมการแนบท้าย ในการไปทำสัญญาในการซื้อขายปุ๋ยดังกล่าว และยังมีชื่อของนางบุญโฮม เชื่องดี และเอกสารพร้อมลายเซ็นครบสมบูรณ์ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวได้ทำสัญญาถูกต้อง จึงมีหนังสือไปทวงถามหนี้ดังกล่าว ส่วนในกรณีที่นางบุญโฮม เชื่องดี ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ยื่นซื้อหรือเกี่ยวข้องใดๆ กับการซื้อปุ๋ย นางบุญโฮม จะต้องไปพูดคุยกับนายสังเวียน เองว่า เอกสารดังกล่าวมาได้ยังไง
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความจากนางบุญโฮม เอาไว้ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ ในการยื่นเอาผิดผู้ที่ปลอมแปลมเอกสาร หรือปลอมแปลงลายมือชื่อ ซึ่งทางผู้เสียหายจะต้องเป็นผู้ติดต่อไปขอเอกสารต้นฉบับจากทางสหกรณ์บ้านแพรกเอง ส่วนหากจำเป็นจำต้องให้ตำรวจเป็นผู้ทำหนังสือขอเอกสาร ทางตำรวจก็ยินดีดำเนินการให้