ไม่น้อยหน้าใครในโลก!! สุดอึ้งเลย..ยอดจับสินค้าก็อปปี้ 9 เดือน มูลค่ารวมพุ่งกว่า 28 ลบ. บอกเลยกระเป๋าหรู เสื้อผ้า แบรนด์เนมไหนก็ไม่รอดพี่ไทย!

ปัญหาการจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เรียกได้ว่ามีข่าวให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบุกจับสินค้าที่ลักลอบนำเข้ามาในประเทศ และลักลอบนำของที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเข้ามาขาย ทั้งวางขายบนห้างสรรพสินค้า และทำการขายบนอินเตอร์เน็ต ในรูปแบบร้านค้าออนไลน์ ซึ่งในระยะหลังพบว่ามีจำนวนมากขึ้น                 
 

โดยล่าสุดวันนี้ (28 มิ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ( บก.ปอศ. ) พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผบช.ก. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอศ. ,พ.ต.อ.สิทธิชัย ลีลาสวัสดิ์ รองผบก.ปอศ. ,พ.ต.อ.ปภัชเดช เกตุพันธ์ รอง ผบก.ปอศ. ,พ.ต.อ.ธวัช สิทธิกิจโยธิน ผกก.3 บก.ปอศ. ,พ.ต.อ.กิตติศัพท์ ทองศรีวงศ์ ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.วัฒนชัย มณฑีรรัตน์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ. ,พ.ต.ต.อดิชาต อมรประดิษฐ์ สว.กก.4 บก.ปอศ.และน.ส.วารุณี รัชตพัฒนากุล ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟท์แวร์ ร่วมกันแถลงผลการระดมตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่าวอินเตอร์เน็ต ระหว่างเดือน ต.ค.59 -26 มิ.ย.60 สามารถจับกุมผู้กระทำผิดละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 90 คดี ผู้ต้องหา 92 คน ของกลาง 8,416 ชิ้น จับกุมผู้เผยแพร่ภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 12 คดี ผู้ต้องหา 12 คน ของกลาง 41 ชิ้น จับกุมโปรแกรมคอมพิวเตอร์ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 218 คดี ผู้ต้องหา 220 คน ของกลาง 2,348 ชิ้น รวม 320 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 28,346,800 ล้านบาท 
                

 

ด้านพล.ต.ต.ชวลิต เปิดเผยว่า การระดมกวาดล้างปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่าวอินเตอร์เน็ต เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมาตรี ที่ให้เร่งรัดกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่าวอินเตอร์เน็ตอย่างจริงจังและต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือนต.ค.59-26 มิ.ย.60 สามารถจับกุมผู้กระทำผิดละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ผู้เผยแพร่ภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และจับกุมโปรแกรมคอมพิวเตอร์ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งสิ้น 320 คดี ได้ผู้ต้องหารวม 324 คน ของกลางกว่า 10,805 ชิ้น รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า 28,346,800 ล้านบาท 

พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปอศ. ได้นำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเข้าตรวจค้นสถานที่ต่างๆ จำนวน 5 จุด แบ่งเป็น ในกรุงเทพมหานคร 1 จุด จ.นนทบุรี 1 จุด และจ.ชลบุรี 3 จุด ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ตรวจยึดของกลางเป็นสินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าจำนวนมาก เช่น ไนกี้ อาดิดาส สตาร์บัค ชาแนล ดิออร์ หลุยย์วิตตอง เป็นต้น 

ทั้งนี้ในปัจจุบันการละเมิดลิขสิทธิ์พัฒนารูปแบบเป็นสังคมออนไลน์มากขึ้น โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่ถูกละเมิดจะเป็นสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าเป็นที่นิยมจากประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศฝั่งยุโรป เช่น ไนกี้ อาดิดาส สตาร์บัค เจ้าหน้าที่จึงต้องเน้นการปราบปราบสิ้นค้าจำพวกนี้ให้มากขึ้น ขอฝากเตือนประชาชนที่มีการขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านทางออนไลน์ ให้ยุติการกระทำนั้นเพราะผิดกฎหมาย รวมถึงผู้ซื้อสินค้าด้วย เนื่องจากการกระทำเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ อีกทั้งอาจได้สินค้าไม่มีคุณภาพและการซื้อซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายก็จะทำให้เกิดการแฮกข้อมูลและติดไวรัสเข้ามาในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้

               

ด้านน.ส.วารุณี เปิดเผยว่า ผู้ที่ซื้อซอฟต์แวร์บางคนจะเข้าไปซื้อซอฟต์แวร์จากเว็บไซด์ที่ดูน่าชื่อถือ แต่เว็บไซด์ดังกล่าวกลับมีการแอบขายซอฟต์แวร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ราคาจะต่างจากซอฟต์แวร์จริงเพียงแค่หลักร้อย ที่สำคัญซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์เหล่านี้ไม่สามารถอัพเดทซอฟต์แวร์ได้ตามที่บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ให้อัพเดท ทำให้เกิดช่องโหว่ให้พวกแฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูล รวมถึง ติดไวรัสและมัลแวร์ก่อให้เกิดความเสียหายได้  

ทั้งนี้มหาลัยแห่งชาติของสิงคโปร์ได้นำเครื่องคอมพิวเตอร์จากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียไปตรวจสอบ พบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์จากไทยกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ มีมัลแวร์อยู่ในเครื่อง การปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ประเภทซอฟต์แวร์นั้นจึงถือว่าเป็นการตัดตอนภัยไซเบอร์ได้ดีที่สุด