เจอดีแน่ !!! “จีน” กร้าว ถ้า “สหรัฐฯ” ยังเดินหน้าขายอาวุธให้ไต้หวัน ด้านผู้นำไต้หวัน ปลุกเร้าให้ทหารพร้อมรบ (มีคลิป)

รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ทำการอนุมัติการจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ล็อตใหญ่ให้แก่ไต้หวัน รวมมูลค่าราว 1,300 ล้านดอลลาร์ คาดว่าจะสร้างความโกรธเกรี้ยวต่อปักกิ่งที่ยืนกรานว่าเกาะแห่งนี้เป็นเพียงมณฑลกบฏของจีน

ขณะที่ทางด้านสหรัฐฯ ยืนยันว่าการขายอาวุธให้แก่ไต้หวันในครั้งนี้ไม่ได้แปลว่าสหรัฐฯละทิ้งจุดยืนในการเคารพหลัก “จีนเดียว” (One China) ซึ่งเป็นเงื่อนไขพื้นฐานในการคงความสัมพันธ์อันดีระหว่างจีนและสหรัฐฯ ไว้

การจำหน่ายอาวุธครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์จีนและสหรัฐฯ ค่อนข้างเปราะบาง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ พยายามโน้มน้าวจีนให้ช่วยบีบคั้นเกาหลีเหนือ และส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วนที่ดีต่อกันเพื่อลดข้อบาดหมางทางการค้า
       
ทางด้านสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันได้ออกถ้อยแถลงในกรณีที่ทางด้าน สหรัฐฯ ได้อนุมัติการจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ล็อตใหญ่ให้แก่ไต้หวัน รวมมูลค่าราว 1,300 ล้านดอลลาร์ว่าการขายอาวุธดังกล่าวเป็นการส่งสารผิดๆถึงกองกำลังอิสรภาพไต้หวัน โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่สภาคองเกรส ของสหรัฐฯ ได้อนุมัติ ให้มีการเสนอขายอาวุธ 7 รายการแก่ไต้หวัน และนับเป็นการขายครั้งแรกภายใต้รัฐบาลของนายโดนัลด์ทรัมป์

ที่ผ่านมานั้นทางด้าน จีนมองว่าไต้หวัน เป็นมณฑล ที่กบฏ และจีนเองไม่เคยปฏิเสธใช้กำลังดึงเกาะแห่งนี้มาอยู่ภายใต้การควบคุม ขณะที่สหรัฐฯเป็นผู้ค้าเป็นเพียงรายเดียวที่จัดหาอาวุธแก่ไต้หวัน ทางด้านกระทรวงกลาโหมของจีนระบุว่านี่มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ผิดพลาดของฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งสวนทางกับความเห็นพ้องต้องกันระหว่าง 2 ประธานาธิบดีและแนวโน้มพัฒนาการในทางบวกแห่งความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ พร้อมกับประกาศเตือนให้สหรัฐฯหยุดขายอาวุธให้ไต้หวัน ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิด รวมถึงสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวัน

สิ่งที่ สหรัฐฯเสนอขายไต้หวันนั้น นอกเหนือจากอาวุธแล้ว รวมไปถึงการสนับสนุนทางเทคนิคสำหรับเรดาร์แจ้งเตือนล่วงหน้า, ขีปนาวุธต่อต้านการแพร่คลื่นความเร็วสูง, ตอร์ปิโดและชิ้นส่วนขีปนาวุธ

การขายครั้งนี้ ที่ยังต้องได้รับการรับรองจากสภาคองเกรส ของสหรัฐฯ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัฐบาลสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา เห็นชอบขายอาวุธแก่ไต้หวัน มูลค่า 1,830 ล้านดอลลาร์เมื่อเดือนธันวาคม 2015 ซึ่งครั้งนั้นทางด้านจีนก็ออกมาต่อต้านอย่างหนักเช่นกัน


ทางด้าน ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน บอกกับนักเรียนทหารจบใหม่ ว่า สันติภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทหารพร้อมรบเท่านั้น
       
       “สันติภาพไม่ได้เกิดขึ้นได้เอง มีเพียงการเตรียมพร้อมต่อสู้อย่างแข็งขันเท่านั้นที่สามารถยุติการสู้รบได้ มีเพียงความเข้มแข็งของเราเท่านั้นที่สามารรถรักษาสันติภาพได้”   โดย ไช่ อิงเหวินกล่าวว่า ไต้หวันยังคงอยู่ภายใต้ “ภัยคุกคามใหญ่หลวงทางทหาร” แต่ไม่ได้กล่าวถึงจีน
       
ไช่ อิงเหวินพยายามยกระดับการป้องกันประเทศนับตั้งแต่เธอเข้ารับตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว โดยเธอ เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพไต้หวันยังกล่าวด้วยว่า การปฏิรูประบบบำนาญของกองทัพจะคำนึงถึง “ลักษณะพิเศษ” ของกองทัพ      ระบบบำนาญใหม่สำหรับทหารจะให้ ความมั่นคงในชีวิตตามสมควรในสัปดาห์นี้ รัฐสภาผ่านร่างกฎหมายลดภาระทางการเงินของรัฐบาลจากเงินบำนาญสำหรับข้าวราชการและครู การเติมเต็มหนึ่งในคำสัญญาช่วงหาเสียงของเธอและชะลอความเป็นไปได้ของการผิดนัดการจ่ายเงินแก่ผู้ปลดเกษียณออกไปอีก 10 ปี