คนเมืองคอนฮือต้าน!!!“เสี่ยวิชัย-คิงเพาเวอร์”โผล่ควักตังค์บูรณะศาลหลักเมืองหวั่นผิดแบบ-แอบทำพิธีเสริมดวงชะตา“จังหวัด”เต้น!!!ส่อบานปลาย???

จากกรณีประชาชนเข้าร้องเรียนการบูรณะศาลหลักเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช และมีการตั้งคณะกรรมการกลาง เพื่อสร้างความเข้าใจพร้อมเชิญผู้ร้องคัดค้านการบูรณะเข้าร่วมประชุม ด้านสถาปนิกผู้ออกแบบการบูรณะปรับปรุงศาลหลักเมือง ระบุ ได้ร่วมกับคณะผู้จัดสร้างศาลหลักเมืองครั้งแรก ไม่ได้ผิดไปจากศิลปกรรมแบบศรีวิชัย ยึดหลักวิชาการ และไม่ได้เสริมดวงชะตาให้ใครนั้น

       ทั้งนี้นายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประชุมแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนการบูรณะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช หลังจากได้มีผู้ยื่นหนังสือร้องเรียนการบูรณะปรับปรุงศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2560 โดยประเด็นสำคัญที่ร้องเรียน คือ การบูรณะปรับปรุงศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เป็นการทำลายศิลปกรรมศรีวิชัยดั้งเดิมหรือไม่ ให้จังหวัดนครศรีธรรมราชมีคำสั่งให้หยุดการดำเนินการดังกล่าว ให้รื้อถอนเสานางค้ำนอกศาล และเสาใหญ่ในศาล ห้ามมิให้มีการสร้างประตูศาลหลักเมืองโลหะธงชัยตามรูปแบบแปลนแผนผัง และให้ปรับปรุงภูมิทัศน์ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชให้กลับคืนสภาพเดิม

       ขณะที่สำนักช่างเทศบาลชี้แจงว่า ศาลหลักเมืองมีปัญหาน้ำรั่วซึมผ่านฝ้าเพดาน ที่ผ่านมาได้พยายามซ่อมแซมแล้วหลายครั้งแต่แก้ไขไม่ได้เนื่องจากมีน้ำขังด้านบน ซึ่งเทศบาลไม่มีแบบแปลนเพราะไม่ได้เป็นผู้สร้าง จึงได้เชิญอาจารย์เปี๊ยก หรือนายพรชัย วัฒนวิกย์กิจ ได้เข้ามาร่วมสำรวจด้วย เพราะเป็นผู้ร่วมสร้างศาลหลักเมืองตั้งแต่แรกเมื่อปี 2530 ส่วนวัสดุที่รื้อออกไปทุกชิ้นได้นำไปเก็บไว้ที่คลังของสำนักการช่าง และทางผู้แทนบริษัท คิงเพาเวอร์ ขอบูรณะปรับปรุงศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2560 โดยมอบหมายให้บริษัท หินอ่อน จำกัด เป็นผู้บูรณะ ซึ่งทางเทศบาลได้อนุญาตให้บูรณะได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2560 เป็นต้นไป

 

       ด้าน รศ.วิเชษฎ์ สุวิสิทฐ์ สถาปนิก คณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้ออกแบบการบูรณะปรับปรุงศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ก่อนการบูรณะตนได้เข้ามาศึกษารายละเอียดก่อน เพราะศาลหลักเมืองเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวของคนนครฯ ตนยังไม่รู้เลยว่า นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เกิดวันไหน นายวิชัย เป็นเพียงผู้ให้งบประมาณในการบูรณะเท่านั้น การบูรณะดำเนินการตามหลักวิชาการ การออกแบบภายในศาลหลักเมืองที่มีการติดตั้งเสาหินอ่อน 12 ต้นนั้นเป็นการทอนสเกล เป็นเสาแบบไทยแต่นำเข้าหินอ่อนจากอิตาลี ไม่ใช่เสาโรมัน เพื่อให้มีความสง่างาม มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน เน้นวัสดุที่มีความคงทนถาวร ยังคงยึดถือศิลปกรรมแบบศรีวิชัยเช่นเดิม ไม่ได้ต่อเติมอะไรเกินความเป็นจริง และให้ช่างฝีมือในท้องถิ่นร่วมด้วย โดยเฉพาะ อ.เปี๊ยก (นายพรชัย วัฒนวิกย์กิจ )ซึ่งเป็นคณะผู้ร่วมสร้างศาลหลักเมืองตั้งแต่ครั้งแรก

       อย่างไรก็ตาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังอีกกล่าวว่า รู้สึกเสียดายที่ทางผู้ร้องไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อจะได้รับฟังเหตุผลทั้งสองฝ่าย ซึ่งถือว่าทุกฝ่ายมีเจตนาดี แต่อย่างไรก็ตามจะมีการเชิญผู้ร้องให้เข้าร่วมประชุมในครั้งต่อไปด้วย แต่ในเบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมา 1 ชุด ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งกับผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง เพื่อรับฟังข้อมูลของทั้งสองฝ่ายแล้วทำหน้าที่ในการสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน

 

       “วิธีการบูรณะถูกวิพาษ์วิจารณ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เนื่องจากเกรงว่าจะทำลายอัตลักษณ์แบบเดิมของศาลหลังเมือง และสร้างความไม่พอใจให้ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชบางคน”

 

       นอกจากนี้นายวิเชษฐ์ พร้อมคณะทำงานซึ่งเป็นตัวแทนของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกลุ่มธุรกิจเครือคิงเพาเวอร์ เปิดพื้นที่บูรณะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช หลังจากก่อนหน้านี้ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปบันทึกภาพภายในอย่างเด็ดขาด โดยได้ชี้แจงถึงขั้นตอนในการปรับปรุงแก้ไขระบบการระบายน้ำ รวมทั้งการต่อเติมลวดลายต่างๆ ซึ่งเป็นไปตามแบบแผนเดิม ปฏิเสธว่าการปรับปรุงศาลหลักเมือง ไม่ได้เป็นการเสริมดวงชะตาให้กับนายวิชัย และยืนยันว่าไม่ได้บูรณะผิดแบบไปจากศิลปะแบบศรีวิชัย

 

 

 

 

ขอบคุณ : ข้อมูลสปชส นครศรีธรรมราช

                 ภาพเพจ ตามรอยองค์จตุคามรามเทพ