ชัดในแดง?!?ย้อนฟังคำสารภาพมือระเบิดหน้าภท.ปี53เป็นการ์ดนปช.ทำพลาดบึ้มตาบอด แต่วันนั้น“จตุพร”บอกแดงไม่เกี่ยวแถมโยน“เนวิน”ระเบิดตัวเอง???

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

       จากกรณีศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ จำคุก 4 ปีนางวริศรียา หรืออ้อ บุญสม อายุ 49 ปี อาชีพตกแต่งภายใน จำเลยที่ 4 คดีระเบิดพรรคภูมิใจไทยเมื่อปี 2553 ซึ่งมีการต่อสู้ทางคดีว่าไม่ใช่ นปช. เป็นแค่เจ้าหน้าที่มูลนิธิพรรคเพื่อไทย และไม่เคยพบหลักฐานสูตรระเบิดในคอมพิวเตอร์จำเลย และคำให้การของจำเลยร่วมที่พาดพิงถึงจำเลยก็ขัดแย้งและเป็นเพียงพยานบอกเล่าที่ให้การซัดทอดเท่านั้นรับฟังไม่ได้ ซึ่งศาลฎีกา เห็นว่าคำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยร่วม 4 คนแม้จะเป็นคำให้การซัดทอดแต่เป็นคำให้การหลังถูกจับเพียง 2 วันไม่มีเวลาปรุงแต่งเรื่องโยงความปิดให้จำเลยที่ 4 จึงนำมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ อีกทั้งปรากฏว่าคำให้การตรงกันเรื่องสถานที่ทำระเบิดว่า จำเลยที่ 4 ให้ใช้บ้านย่านโชคชัย ซึ่งจำเลยมีบ้านอีกหลังบริเวณไม่ไกลกัน ดังนั้นฎีกาของจำเลยจึงฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์คดีถึงสุดตามฎีกา ราชทัณฑ์เตรียมคุมตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลางรับโทษส่วนแนวร่วม นปช. จำเลยร่วม อีก 3 คน ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาปี 58 จำคุก คุก 4 ปี ขณะที่ นายสุริยาหรืออ้วน ภูมิวงษ์ อายุ 45 ปี อาชีพช่างทำบั้งไฟ มือทำระเบิดจำเลยร่วมที่ 5 นั้นศาลอุทธรณ์ ให้จำคุก 2 ปี 8 เดือน แต่ขณะนี้ถูกศาลให้ออกหมายจับและปรับนายประกัน 500,000 บาทเนื่องจากไม่มาศาลฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ปี2558

ชัดในแดง?!?ย้อนฟังคำสารภาพมือระเบิดหน้าภท.ปี53เป็นการ์ดนปช.ทำพลาดบึ้มตาบอด แต่วันนั้น“จตุพร”บอกแดงไม่เกี่ยวแถมโยน“เนวิน”ระเบิดตัวเอง???

       ทั้งนี้ย้อนไปวันที่ 22 ก.ค.59 เวลา 09.30 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำ อ.2930/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเอนก สิงขุนทด จำเลยที่ 1 ซึ่งตาซ้ายบอดสนิท ตาขวาเห็นเลือนราง เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดหน้าพรรคภูมิใจไทย จำเลยที่ 1 , นายเดชพล พุทธจง จำเลยที่ 2 , นายกำพล คำคง จำเลยที่ 3 , นายกอบชัย หรืออ้าย บุญปลอด จำเลยที่ 4 , นางวริศรียา หรืออ้อ บุญสม จำเลยที่ 5 และนายสุริยาหรืออ้วน ภูมิวงษ์ จำเลยที่ 6 ในความผิดฐานร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์ , วางเพลิงเผาทรัพย์โรงเรือน , ทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่ทรัพย์ฯ , พาอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุสมควรฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218,221, 222,371และร่วมกันทำวัตถุระเบิด และมีวัตถุระเบิดที่ออกใบอนุญาตไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธ(วัตถุระเบิด)ไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุสมควร ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4 , 38 ,74  อย่างไรก็ดี ในชั้นพิจารณา นายแอนก จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ 2- 6ให้การปฏิเสธ ศาลจึงได้แยกสำนวนพิจารณา

 

       โดยเมื่อศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า ที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดมานั้น เหมาะสมกับพฤติการณ์แล้ว แต่พิพากษาแก้เป็นว่า เฉพาะความผิดฐานทำให้เกิดระเบิดเป็นอันตรายต่อทรัพย์สินฯ และสถานที่ประชุม ตาม ม.222 และ 218 นั้น ให้จำคุกตลอดชีวิต รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 25 ปี แต่เมื่อรวมโทษอื่นฐานมีวัตถุระเบิดและพกพาไปในที่สาธารณะแล้วให้จำคุกจำเลยทั้งสิ้น 27 ปี 6 เดือน และปรับ 50 บาท

ชัดในแดง?!?ย้อนฟังคำสารภาพมือระเบิดหน้าภท.ปี53เป็นการ์ดนปช.ทำพลาดบึ้มตาบอด แต่วันนั้น“จตุพร”บอกแดงไม่เกี่ยวแถมโยน“เนวิน”ระเบิดตัวเอง???

       อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบยังพบความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับประเด็นนี้ ซึ่งถือเป็นการต่อจิ๊กซอร์ชิ้นสำคัญของกลุ่มขบวนการติดอาวุธในหมู่คนเสื้อแดง ซึ่งแกนนำนปช.ต่างปฏิเสธมาโดยตลอดว่าเป็นการกล่าวร้ายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง   แต่หลังจากวันที่ 22 ก.ค. ที่มีการชี้ชัดในความผิดที่เกิดขึ้นจากการ์ด นปช .อย่าง “เอนก สิงขุนทด”โดยศาลฎีกาอาจทำให้สังคมไทยมีความเข้าใจในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในปี2553 ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นต่อปฏิบัติการก่อความรุนแรงในการชุมนุมทางการเมือง เพื่อเป้าหมายแฝงถึงขั้นก่อเกิดเป็นสงครามกลางเมืองได้ ???  

 

       “หลังเกิดระเบิด นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ออกมาแถลงว่ามีเป้าหมายสังหาร นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรค คนฟังก็เข้าใจว่าคนพวกนี้แมนมากๆ คนจะคิดสังหารตัวเองจากระเบิดเงาะ ขอบอกว่าเท่ตายละ ส่วนที่กล่าวหาว่าคนอยู่เบื้องหลัง เป็นการ์ด นปช.นั้น เวลานี้การ์ด นปช.หนีหัวซุกหัวซุนจากการไล่ล่า แต่ตนยืนยันว่ากรณีนี้เป็นการสร้างสถานการณ์ สร้างความชอบธรรม  ...”   (จตุพร  พรหมพันธุ์  วันที่  26  มิ.ย. 2553)

 

       ขณะที่ย้อนข้อมูลกลับไปพบว่านายเอนก ที่ถูกคำพิพากษาศาลฎีกาสั่งจำคุกรวม 27 ปี 6 เดือนเคยให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “เขาได้รับว่าจ้างมาจากแหลมฉบัง ขึ้นรถกระบะมาถึงกรุงเทพฯ ตั้งแต่คืนนี้ (21 มิถุนายน 2553 ) มาพักอยู่แถวโชคชัย 4 ในวันเกิดเหตุถูกมอบหมายให้ของขึ้นรถแล้วขับรถมาจอดเอาของลงแถวที่ทำการพรรคภูมิใจไทย แต่ตอนไปเข็นรถผลไม้มามีฝนตก ขณะเดียวกันก็ได้รับโทรศัพท์ให้กลับมาตรวจที่รถ เลยเอามือล้วงเข้าไปก็ระเบิดขึ้น"

ชัดในแดง?!?ย้อนฟังคำสารภาพมือระเบิดหน้าภท.ปี53เป็นการ์ดนปช.ทำพลาดบึ้มตาบอด แต่วันนั้น“จตุพร”บอกแดงไม่เกี่ยวแถมโยน“เนวิน”ระเบิดตัวเอง???

       เมื่อตรวจสอบลึกลงไปพบว่า นายเอนกเคยทำงานเป็น รปภ.บริษัทแห่งหนึ่งแถวภาคตะวันออก  ก่อนจะถูกส่งไปทำหน้าที่ตามที่ต่างๆ กระทั่งเดือนมีนาคม 2553  จึงลาออกจากงานไปเป็นสมัครเป็นการ์ด นปช.ให้แก่กลุ่มเสื้อแดงแหลมฉบังเรื่อยมา  กระทั่งมีการสลายการชุมนุมในเดือนพ.ค. ปี 2554  นายเอนกกับพวกจึงหันกลับมาประกอบอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่ ซึ่งมีนายกำพล  คำคง แกนนำปช.ในพื้นที่แหลมฉบัง เป็นหัวหน้าวินจักรยานยนต์  และเป็นที่มาของการจ้างวานให้นายเอนก เป็นผู้เข็นรถผลไม้ที่มีระเบิดซุกซ่อนไปจอดที่ข้างพรรคภูมิใจไทย

 

       ขณะที่นายเดชพล  พุทธจง  ผู้ต้องหาอีกคนหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า  “ก่อนหน้านี้เคยลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคพลังธรรม จ.นครพนม เมื่อปี2531 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังเคยเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่  จ.นครพนม หลังจากนั้นก็เดินทางมาทำงานรับเหมาก่อสร้างที่ กทม. และได้ตามลูกชายย้ายมาอยู่ จ.ชลบุรี ได้ 2 ปีแล้ว ช่วงที่มีการชุมนุมของคนเสื้อแดง ตนก็เข้าร่วมชุมนุมที่เวทีผ่านฟ้าด้วยจนกระทั่งจักกับผู้หญิงที่ชื่อ อ้อ  ส่วนนาย อ้าย ตนทราบว่าขายเสื้อแดงอยู่ที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว และได้รู้จักกันในวันที่มีการเผาห้างเซนเตอร์วัน  ย่านอนุสาวรีย์ชัย4สมรภูมิ ซึ่งนายอ้ายก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย”

 

       นายเดชพล  อ้างด้วยว่า “หลังจากที่มีการยุติการชุมนุมของคนเสื้อแดง ตนได้ฟังคำบอกเล่าเหตุการณ์กระชับพื้นที่จาก น.ส. อ้อ  ทำให้มีอารมณ์ร่วม และตัดสินใจวางระเบิดในครั้งนี้ โดยน.ส.อ้อ กับนายอ้าย  เป็นคนวางแผน ส่วนตนก็ชวนนายกำพลมาร่วมด้วย ก่อนที่นายกำพลจะไปชวนนายเอนก  การ์ด นปช.ที่อำเภอแหลมฉบังมาสมทบอีกคน ซึ่งตอนแรกเป้าหมายไประเบิดพรรคประชาธิปัตย์  แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลจำนวนมาก จึงเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นที่พรรคภูมิใจไทยแทน เพราะต้องการสร้างสถานการณ์ให้รัฐบาลหันมาให้ความสนใจกับทางกลุ่มคนเสื้อแดงบ้าง”

ชัดในแดง?!?ย้อนฟังคำสารภาพมือระเบิดหน้าภท.ปี53เป็นการ์ดนปช.ทำพลาดบึ้มตาบอด แต่วันนั้น“จตุพร”บอกแดงไม่เกี่ยวแถมโยน“เนวิน”ระเบิดตัวเอง???

       แต่ที่สำคัญคือข้อมูลทางดคีที่ปรากฏในชั้นการพิจารณาของศาลยุติธรรม  สรุปได้ว่า นายเดชพล  และ นายกำพล  เป็นสองคนที่ร่วมวางแผนร้ายดังกล่าว  โดยการทำหน้าที่โทรศัพท์สั่งการนายอเนกเข็นรถผลไม้ไปที่พรรคภูมิใจไทย  ส่วน  นายกอบชัย หรืออ้าย บุญปลอด  ทำหน้าที่สำคัญในการคำนวณสูตรระเบิดจากสารอาร์ดีเอ็กซ์  หรือ สารประกอบระเบิดแรงสูงที่ใช้กับวัตถุระเบิดประเภทซีโฟร์  จากหลักฐานสมุดบันทึกที่มีการเขียนสูตรประกอบระเบิด  ที่ตรวจพบภายในบ้านของนางวริศรียา หรือ อ้อ บุญสม  ก่อนส่งมอบให้นายสุริยา หรือ อ้วน ภูมิวงษ์ ซึ่งเดินทางมาจากนครสวรรค์เป็นคนประกอบระเบิดเข้ากับถังแก๊ส

 

      นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบในภายหลังด้วยว่า นอกจากชุดประกอบระเบิดที่พรรคภูมิใจไทยแล้ว  กลุ่มบุคคลทั้งหมดยังจัดทำวัตถุระเบิดแสวงเครื่องในลักษณะเดียวกันอีกชุดหนึ่ง  ประกอบด้วยดินระเบิดน้ำหนัก 7 กิโลกรัมติดพ่วงกับถังแก๊สขนาด 15 กิโลกรัมอีกใบหนึ่ง   ซึ่งถูกตรวจสอบพบว่าถูกนำไปทิ้งไว้ภายในซอยรามอินทรา 81 ถนนรามอินทรา  แขวงและเขตคันนายาว  โดยไม่มีการยอมรับว่าชุดระเบิดแสวงเครื่องนี้มีเป้าหมายจะนำไปก่อเหตุที่ไหน  เนื่องจากปฏิบัติการครั้งแรกที่พรรคภูมิใจไทยล้มเหลวเสียก่อน !!!

ชัดในแดง?!?ย้อนฟังคำสารภาพมือระเบิดหน้าภท.ปี53เป็นการ์ดนปช.ทำพลาดบึ้มตาบอด แต่วันนั้น“จตุพร”บอกแดงไม่เกี่ยวแถมโยน“เนวิน”ระเบิดตัวเอง???