- 06 ก.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
จากกรณีกองบังคับการตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ทยอยเข้าตรวจสอบวัดเป้าหมายเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณะและปฏิสังขรณ์วัดของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หลังพบมีการทุจริตเกิดขึ้น ซึ่งได้สร้างความเสียหายแก่รัฐบาลเกี่ยวกับงบประมาณเป็นจำนวนหลายล้านบาทนั้น ล่าสุดวันนี้พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐมได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลในเรื่องดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กด้วย ซึ่งอยากให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนา หรือ พศ.ได้เข้ามาตรวจสอบว่าข้อมูลที่พระพุทธะอิสระโพสต์นั้นเท็จจริงประการใด รวมถึงได้เปิดโอกาสให้วัดที่ถูกพาดพิงได้ชี้แจง โดยเนื้อหาทั้งหมดมีดังต่อไปนี้
“เงินทอนร้อนๆ มาอีกแล้วจ้า
๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐
เห็นข่าว ปปป.เรียกร้องให้วัดต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินทอนให้ออกมาแสดงตัวเพื่อความบริสุทธิ์ใจ
หากไม่แล้ว เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบเจอหลักฐานพัวพันถึงใครจะดำเนินคดีไม่เว้น
พุทธะอิสระฟังแล้วให้รู้สึกดีใจว่า ปปป. คสช. ท่านนายกประยุทธ์ ได้กรุณาช่วยกำจัดปลวกที่คอยกัดกินพระพุทธศาสนาที่มีมาเป็นระยะเวลายาวนานให้มันหมดไปจากพระพุทธศาสนาเสียที
ไหนๆ จะกำจัดปลวกกินพระพุทธศาสนาทั้งทีก็จัดการล้างบางให้หมดสิ้นซากไปเลย
ปปป. ลองไปตรวจสอบวัดที่ จ.ตากกันดูหน่อยดีไหม ได้ข่าวแว่วๆ มาว่าวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ มีการโอนเงินไปให้วัดยางโองน้ำ ๒ ล้าน แล้วโอนเงินทอนคืนแก่เจ้าหน้าที่สำนักพุทธไป ๑,๙๒๐,๐๐๐ บาท วัดได้แค่ ๘ หมื่นบาท
วัดที่ ๒ คือวัดยางโองสันกลาง ได้รับงบอุดหนุน ๒ ล้าน แล้วโอนเงินทอนคืนให้เจ้าหน้าที่สำนักพุทธไป ๑,๙๓๐,๐๐๐ บาท วัดได้แค่ ๗ หมื่นบาทเท่านั้น
และต่อมาสำนักพุทธได้โอนเงินไปอุดหนุนวัดยางโองบน ๒ ล้านบาท พร้อมทั้งตามไปขอเงินทอนคืน ๑,๙๒๐,๐๐๐ บาท วัดได้แค่ ๘ หมื่นบาทเท่านั้น
ได้ยินแว่วๆ มาด้วยว่า งานนี้มีการเตรียมการเผชิญสืบด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ไปเตี๊ยมกับสมภารทั้ง ๓ วัดเอาไว้แล้วด้วย
เรื่องนี้นอกจากมีเจ้าอาวาส ๓ วัด แล้วยังมีตัวละครดังๆ ในสำนักพุทธร่วมแสดงถึง ๔ คน หนึ่งในนั้นคือคนชื่อฉัตรชัย นามสกุลไปหาเอาเอง
งานนี้ ผอ.พศ.จังหวัดตาก จะปฏิเสธการรับรู้คงจะไม่ได้ด้วยนะจ๊ะ
อ้อ... ไหนๆ ปปป.ก็กล้าที่จะเข้าไปตรวจสอบวัดพิชยญาติการามของเจ้าคณะหนกลางแล้ว ขอฝากให้ช่วยไปตรวจสอบวัดสระเกศที่แสนจะยากจนถึงขนาดสำนักพุทธต้องให้เงินอุดหนุนร้อยกว่าล้านภายใน ๒ ปีคือ ปี ๕๖-๕๗ โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้
๑๑ พ.ย. ๕๖ วัดสระเกศรับเช็คจากสำนักพุทธ ฉบับที่หนึ่ง ๑๐ ล้านบาท ฉบับที่ ๒ ๑๐ ล้านบาท ทั้งหมดนี้เขาอุดหนุนกันวันละ ๒ เวลาเชียวนะ ดูช่างยากจนอดอยากแร้นแค้นเสียจริงๆ
๑๙ ธ.ค. ๕๖ รับเช็คหมายเลข ๙๒/๐๔๐๖๗๙๙ เป็นเงิน ๕ ล้านบาท
๒๐ ม.ค. ๕๗ รับเช็คหมายเลข ๓๒/๐๔๑๗๐๖๒ เป็นเงิน ๑๐ ล้านบาท
๒๑ ม.ค. ๕๖ รับเช็คหมายเลข ๓๒/๐๔๑๗๐๖๖ เป็นเงิน ๙ ล้านบาท และหมายเลข ๓๒/๐๔๑๗๐๖๗ เป็นเงิน ๘ ล้านบาท
๔ ก.พ. ๕๗ รับเช็คหมายเลข ๓๕/๐๔๑๗๑๓๑ เป็นเงิน ๑๐ ล้านบาท
๔ มี.ค. ๕๗ รับเช็คหมายเลข ๓๕/๐๔๑๗๑๓๒ เป็นเงิน ๖๗.๕๕ ล้านบาท
ฝากอีกซัก ๒ วัดก็แล้วกันนะ คือวัดสามพระยาและวัดเทพศิรินทร์ สองวัดนี่ก็สุดแสนจะยากจน สำนักพุทธจึงต้องอนุมัติเงินอุดหนุน โดยมีตัวเลขที่น่าสนใจดังนี้
วัดเทพศิรินทร์
๔ ธ.ค. ๕๖ รับเช็คจากสำนักพุทธ ๑๐ ล้านบาท
๔ ก.พ. ๕๗ รับเช็คอีก ๒ ล้านบาท
ตามมาติดๆ คือวัดของกรรมการมหาเถรสมาคม วัดเจ้าคณะปกครอง กทม. ที่สุดแสนจะลำบากลำบนยากจนข้นแค้น นั่นคือวัดสามพระยา
สำนักพุทธได้เมตตากรุณาโอนเงินเยียวยาให้ถึง ๑๗ ล้านภายใน ๒ ปี
๔ ธ.ค. ๕๖ รับเช็คจากสำนักพุทธ ๕ ล้านบาท
๑๓ ก.พ. ๕๗ รับเช็ค ๕ แสนบาท
๑๙ ก.พ. ๕๗ รับเช็ค ๗ ล้านบาท
วันนี้เอาเบาะแสไปแค่นี้ก่อนละกันนะจ๊ะ
ส่วนเงินทอนจะทอนกันเท่าไหร่ ปปป.เชิญไปสอบบัญชีกันเอาเอง
หากจะให้ดีลองตรวจสอบทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่สำนักพุทธระดับซี ๙ ซี ๘ ซี ๗ และซี ๕ ดูว่าทำไมถึงได้ร่ำรวยกันนัก
วันหน้าจักนำมาให้ ปปป.ค่อยๆ สืบ ค่อยๆ ค้นกันต่อไป
คิดว่าเบาะแสแค่นี้ พวกเขาแทบอยากจะขยี้ฉันให้เป็นผุยผงอยู่แล้ว”
พุทธะอิสระ
ขอบคุณเฟซ : บุ๊กหลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)