- 12 ก.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
หลังจากทีมข่าว "Deeps News" ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการร้องเรียนผ่านเพจเฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ” เกี่ยวกับเรื่องทุกข์ร้อนต้องเผชิญกับบรรดาวินมอเตอร์ไซค์เถื่อนที่ออกล่าเหยื่อในย่านรามคำแหง โดยเรียกเก็บค่าโดยสารมหาโหดหลายร้อยบาท และยังส่งทิ้งไว้กลางทาง จนกลายเป็นความหวั่นวิตกว่าถ้าไม่มีการควบคุมดูแล ปัญหาจะบานปลายกลายเป็นเหตุอาชญากรรมในที่สุด ต่อมาได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.) หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงว่า
ในกรณีผู้ร้องเรียนแบบนี้ชัดเจนว่า คงถูกหลอกโดยวินรถเถื่อนหรือรถป้ายดำที่ตั้งกลุ่มวิ่งรับส่งผู้โดยสารหน้ามหาวิทยาลัย ซึ่งขณะนี้กำลังระบาดอย่างหนัก ขณะเดียวกันได้มีหัวหน้าชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้กระทำการละเมิดกม. พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารอีกจำนวนหนึ่งซึ่งนำกำลังเข้ามาดักซุ่มจับผู้มีพฤติกรรมขับขี่รถรับจ้างโดยไม่ถูกกฎหมาย และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้หลายสิบรายด้วย (ตามคลิป)
ล่าสุดปัญหาเหล่านี้ก็ยังไม่หมดไป ได้แต่รอการแก้ไขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งวันนี้ 12 ก.ค. 60 เจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางบก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารจากกองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อย กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์
ได้ลงพื้นที่ตรวจบริเวณทางเข้าหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเป็นจุดที่จะมีนักศึกษาและบุคคลทั่วไปใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้มีกลุ่มวินรถจักรยานยนต์รับจ้างที่ถูกกฎหมายก็ยังได้ร้องเรียนเข้ามา เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรม และเห็นว่าวินรถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตมาจัดตั้งได้อย่างไร รวมถึงในบางรายก็เรียกเก็บค่าโดยสารที่เกินราคาด้วย
โดยเจ้าหน้าที่จึงเน้นตรวจรถโดยสารสาธารณะประเภทรถจักรยานยนต์รับจ้างเป็นหลัก และเน้นตรวจรถจักรยานยนต์รับจ้างที่ไม่ถูกกฎหมาย โดยเป็นรถประเภทส่วนรถบุคคลมีป้ายทะเบียนดำ แต่นำมาวิ่งรับจ้าง ถือว่ามีความผิดฐานนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้าง มีอัตราโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท พบผู้กระทำความผิดทั้งสิ้น 5 ราย โดยมีความผิดเดียวกันคือ นำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกได้ทำการเขียนใบคำสั่งผู้ตรวจการ 4 ราย และเปรียบเทียบปรับ 1 ราย
จากการสอบถามผู้กระทำผิดทราบว่า พึ่งจะเริ่มนำรถจักรยานยนต์มาวิ่งรับจ้างโดยเช่าเสื้อวินมาจากบริเวณใกล้เคียง ในราคาเดือนละ 3,000 บาท ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะทำการยึดเสื้อวิน และให้เจ้าของที่แท้จริงมารับคืนพร้อมกับตักเตือน และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ขอบคุณ...js100